"บ้านสบายเพื่อยายตา" ต้นแบบที่อยู่อาศัยวัยเกษียณ

ด้วย จำนวนประชากร "ผู้สูงอายุ" ในประเทศไทยที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ว่ากันว่าในอีก 20 ปีข้างหน้าจะอยู่ที่ 12-13 ล้านคน ทำให้ขณะนี้ภาคธุรกิจต่าง ๆ ไม่ว่าจะลงทุนอะไรก็ต้องนึกถึงลูกค้ากลุ่มนี้ไม่เว้นแม้แต่หน่วยงานภาครัฐ อย่าง "กคช.-การเคหะแห่งชาติ" ที่นอกจากจะสร้างบ้านให้กับผู้มีรายได้น้อยแล้ว ล่าสุดยังมีโครงการ "บ้านสบายเพื่อยายตา" เป็นกิจกรรมคืนกำไรกลับสู่สังคม 

โดยโปรเจ็กต์นำร่องอยู่ที่ อ.พนา จ.อำนาจเจริญ ที่ "กคช." ได้ส่งมอบ "บ้านสบายเพื่อยายตา" ให้กับผู้สูงอายุในพื้นที่ ซึ่งในครั้งนี้ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 474,000 บาท เข้าไปปรับปรุงบ้านของ

ผู้สูงอายุจำนวน 12 หลัง โดยบ้านของผู้สูงอายุใน "อ.พนา" เป็นบ้าน 2 ชั้น ยกพื้นสูง ชั้นล่างเป็นใต้ถุนบ้าน มีห้องน้ำอยู่ในบริเวณเดียวกัน ส่วนชั้น 2 เป็นห้องนอนสำหรับพักอาศัย การปรับปรุงบ้านแต่ละหลังจะเน้นให้ผู้สูงอายุย้ายลงมาอยู่อาศัยข้างล่างเป็น สำคัญ 

"พี่ ย้วย-เรืองยุทธ์ ตีระวนิช" ที่ปรึกษาและผู้ประสานงานโครงการการเคหะแห่งชาติ เล่าว่า การออกแบบบ้านต้องตอบสนองกับรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยแต่ละคน ทำให้การปรับปรุงบ้านแต่ละหลังแตกต่างกัน แต่มี 3 จุดสำคัญที่ต้องปรับปรุง ได้แก่ ห้องน้ำ บันได และพื้น เพราะเป็นบริเวณ

 

 

 

                                                                                                                                                   

เริ่ม จาก "ห้องน้ำ" จะเปลี่ยนโถส้วมเป็นส้วมนั่งราบ ความสูงอย่างน้อย 45 เซนติเมตร และติดตั้งราวจับรูปตัวแอล (L) ใช้พยุงตัวเวลาลุกนั่ง และต่อเติมที่นั่งอาบน้ำที่มีระดับความสูงพอดีกับการเอื้อมมือตักน้ำอาบด้วย 

จากนั้นเป็นการปรับปรุงบันไดให้มีราวจับและชานพัก ระยะห่างของขั้นบันไดต้องพอดีกับการก้าวเท้าหรือถัดขึ้น-ลง ส่วนความกว้างของบันไดต้องมีขนาดพอเหมาะ รองรับการก้าวได้เต็มฝ่าเท้า 

นอก จากนี้ต้องปิดช่องโหว่ระหว่างชั้นบนสุดของบันไดกับพื้นบ้านเพื่อป้องกันการ สะดุดล้ม ในส่วนของพื้นบ้านต้องปรับให้เรียบเสมอกัน พื้นที่ใต้ถุนอาจเทคอนกรีตหรือปูด้วยดินทรายเพื่อลดแรงกระแทกจากการหกล้มก็ ได้

ความพิเศษบ้านตัวอย่างที่ อ.พนา อยู่ที่แนวคิดเรื่องการเพิ่มรายได้ โดยพัฒนาและปรับปรุงพื้นที่ชั้น 2 ที่ตายายย้ายลงมาอยู่ชั้นล่าง แล้วให้เป็นโฮมสเตย์หรือบ้านพักสำหรับข้าราชการและนักท่องเที่ยว

เมื่อถามว่า...โมเดลบ้านสบายเพื่อยายตา สามารถนำไปประยุกต์เป็นโครงการพาณิชย์ได้หรือไม่

ได้ รับการไขคำตอบจาก "พี่ย้วย" ว่า การนำโมเดลไปใช้ในเชิงพาณิชย์สามารถทำได้ แต่ต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน และต้องทำความเข้าใจกับพฤติกรรมและรูปแบบการใช้ชีวิต เพื่อออกแบบโครงการให้ตอบสนองกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด 

แต่โจทย์ สำคัญก็คือ การให้ผู้สูงอายุอยู่ร่วมกับชุมชน เพื่อให้เกิดความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เพราะผู้สูงอายุส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่กับลูกหลาน ชุมชนจึงต้องมีส่วนร่วมในการดูแล การสร้างหมู่บ้านหรือชุมชนที่มีแต่ผู้สูงอายุนั้นเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง