เปิดธุรกิจความงามพันล้าน 'นิติพล รักทุกฝ่าย'วอนอย่าเอาไปสร้างความเกลียดชัง
เรื่องของความสวยความงามนั้นเป็นของคู่กับผู้หญิงมาแต่ไหนแต่ไร ยิ่งปัจจุบันกระแสความความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่พร้อมจะจ่ายเม็ดเงินเพื่อแลกกับความสวยความหล่อและดูดี ก็เป็นปัจจัยอันดับต้นๆ ที่ปลุกกระแสธุรกิจความงามในยุคนี้ให้เติบโตแบบก้าวกระโดด และแข่งขันทางการตลาดกันอย่างดุเดือด ที่สำคัญในแต่ละปี ธุรกิจความสวยความงามในบ้านเรานั้น มีเม็ดเงินหมุนเวียนสะพัดนับหมื่นล้านบาทเลยทีเดียว วันนี้ สนุก! มันนี่ มีโอกาสนั่งคุยกับนายแพทย์ นิติพล ชัยสกุลชัย ผู้บริหารนิติพล คลินิก ที่มาเผยเคล็ดลับง่ายๆ ในการปั้นให้ นิติพล คลินิค เป็นสถาบันความงามและผิวพรรณอันดับต้นๆ ของประเทศ
- คุณภาพเป็นอันดับหนึ่ง ปัจจุบันธุรกิจความสวยความงามในบ้านเรา ถ้ามองดูทั่วๆ ไป จะมีลักษณะการให้บริการคล้ายๆ กัน เช่น รักษาสิว รักษาฝ้า แต่แท้ที่จริงแล้วทุกแบรนด์ ล้วนต่างมีเอกลักษณ์ของตัวเอง เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่ทางนิติพลนำมาใช้เป็นปัจจัยหลักในการวางแผนกลยุทธ์เลย ก็คือความเป็นมืออาชีพของบุคลากร พูดง่ายๆ เรียกว่า แข็งกันด้วยคุณภาพ เมื่อผู้บริโภคเข้ามาสัมผัสแล้วไม่เปลี่ยนใจ ไม่ปันใจไปแบรนด์อื่น อันนี้เป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะว่าในกลุ่มลูกค้าที่มารับบริการ 90% คือลูกค้าประจำและลูกค้าหมุนเวียน ส่วนลูกค้าใหม่จะเข้ามาน้อยกว่า ดังนั้น หากลูกค้าใหม่เข้ามา แล้วเราสามารถมัดใจเขาอยู่ และเกิดความพึงพอใจในการบริการมากเท่าไหร่ ธุรกิจของเราก็จะเติบโตขึ้นได้เรื่อยๆ
- มัดใจลูกค้าด้วยการบริการ เราไม่ได้ขายตัวผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ แต่สิ่งที่ลูกค้าจับต้องได้เมื่อมาใช้บริการกับเรา คือการบริการ อาทิ โปรแกรมการทำหน้า การยิงเลเซอร์ หรือการฉีดสารเติมแต่งอะไรก็ตาม ซึ่งแพทย์เป็นผู้ลงมือกระทำร่วมกับทีมบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ เพราะฉะนั้นลูกค้าจริงๆ จึงไม่ได้สนใจว่าสิ่งที่ทำราคาเท่าไหร่ เพราะเรื่องราคาสามารถพูดคุยกันได้ แต่สิ่งที่ลูกค้าสนใจมากที่สุด คือ มีความมั่นใจว่าแพทย์ และบุคลากรต้องมีความน่าเชื่อถือ มีความเชี่ยวชาญ และที่สำคัญที่สุดมีความเป็นกันเอง รู้สึกมาแล้วเหมือนพี่น้อง มีความสนิทสนมกลมเกลียวกัน เพื่อวันหลังจะได้กลับมาเป็นลูกค้าประจำอีก
- ตอกย้ำแบรนด์ด้วยพรีเซ็นเตอร์ การใช้ดารา หรือคนดังเป็นพรีเซ็นเตอร์นั้นถือว่าส่วนที่จะช่วยทำให้แบรนด์เกิดการจดจำได้ดีขึ้น แต่ไม่ใช่กลยุทธ์หลักที่ใช้ในการแข่งขันกัน เป็นเพียงการสร้างความจุดเด่นให้กับสินค้าได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น แต่สุดท้ายแล้วผู้บริโภคก็ยังคงต้องมาสัมผัสถึงแบรนด์ตัวจริง พูดง่ายๆ ว่า คลินิกเล็กๆ ที่ไม่ได้โฆษณา แต่ถ้าคุณหมอฝีมือดี พนักงานในร้านมีคุณภาพ ระบบการจัดการดีธุรกิจก็ไปรอดได้เช่นเดียวกัน
- จุดแข็งต้องโดดเด่น ผมมองว่าจุดเด่นของเราอยู่ที่กลุ่มพนักงานและทีมงานการแพทย์ ถ้าพนักงานมีใจให้บริการ เมื่อลูกค้าเข้ามาใช้บริการ ถามตอบรู้เรื่อง และมีความน่ารัก มีความนุ่มนวล ไม่ได้ฮาร์ดเซลเหมือนกับคลินิกอื่นๆ ก็สามารถสร้างแรงใจจูงใจให้ลูกค้าได้ระดับหนึ่งแล้ว
- ทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ผมมองว่า ทำเลสำคัญมากๆ ต่อการเปิดคลินิก ยกตัวอย่างสมัยก่อนประชาชนยังไม่นิยมเดินห้าง ดังนั้น เราก็เลือกเปิดตรงทำเล โดดเด่นติดชุมชน หรือใจกลางเมือง เช่น รามคำแหง อนุสาวรีย์ ก็เป็นจุดที่สร้างความจดจำได้ดี โดยเฉพาะคลินิกความงามนั้นทำเลสำคัญๆ มาก ลูกค้าต้องเข้าถึงได้ง่าย โอกาสสร้างลูกค้าใหม่ๆ ก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
- ราคามาตรฐาน จริงๆ ราคาของนิติพลไม่ได้เพิ่มราคา ไม่ได้ลด เป็นมาตรฐาน เพียงแต่การเวลาผ่านไป การบริการใหม่ๆ ก็เข้ามา เราก็อาจมีปรับบางส่วนเพิ่มเล็กน้อยเท่านั้น
- มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน ลูกค้านิติพลจะเป็นกลุ่มตั้งแต่วัยทำงานขึ้นไป 25 ปีจนถึงอายุประมาณ 45 ซึ่งเป็นกลุ่มที่ชอบดูแลตัวเอง และมีกำลังจ่ายสามารถดูแลความสวยความงามเพื่อตัวเองได้
" อีกไม่นานต่อจากนี้ นิติพลจะเป็นการร่วมมือทุนกับต่างชาติ เพื่อขยายสาขาไปต่างประเทศให้มากขึ้น ตอนนี้มีสาขานำร่องอยู่ที่ ลาว , พม่า และกำลังหาพันธมิตรต่างชาติมาร่วมลงทุนอยู่ ก็คงจะมีข่าวดีเร็วๆนี้ หลังจากนั้นเรื่องธุรกิจก็จะมีการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดด เนื่องจากมีนักธุรกิจเข้ามาบริหารงานแบบเต็มตัว"
ส่วนในกรณีการ์ด กปปส. ควบคุมตัว หมวดเจี๊ยบ ร.ท.หญิง สุนิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะนั่งอยู่ด้านหน้านิติพลคลินิก สาขาสยามสแควร์ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (25 ก.พ.)ที่ผ่านมา ก่อนจะมีการพูดคุยและนำตัวไปส่งกลับอย่างปลอดภัย จนเกิดเป็นกระแสข่าววิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์
นายแพทย์ นิติพล ชัยสกุลชัย ได้กล่าวว่า "ผมขอย้ำอีกครั้งว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเหตุชุลมุน เข้าใจว่าสื่อไปลงข่าวเป็นนิติพล จนทำให้มีการปั่นกระแสว่าเป็นฝ่ายตรงข้าม ซึ่งทางนิติพลเอง พยายามแก้ไขและเข้าไปเคลียร์ปัญหาตามข้อเท็จริง แต่ก็ยังมีบางส่วนมีการนำเอาคลินิกและหมวดเจี๊ยบเข้าไปโยงกัน เพื่อให้เกิดความเกลียดชัง ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ทางนิติพลเองตกเป็นเหยื่อทางการเมือง ถึงขนาดมีคนโทรเข้ามาต่อว่า ทางเราเองก็ต้องทำความเข้าใจกับลูกค้า ซึ่งลูกค้าเองก็เข้าใจ"
"สำหรับข่าวนี้ ผมในฐานะผู้บริหารนิติพลคลินิก ได้ตรวจสอบจนเป็นที่แน่ใจแล้วครับ ขอชี้แจงเป็นข้อๆ ครับ"
1. หมวดเจี๊ยบ ไม่ได้เข้ามาที่นิติพลคลินิก และไม่เคยเป็นคนไข้ของคลินิกมาก่อน แพทย์ประจำสาขาไม่รู้จัก พนักงานไม่ทราบ ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์จับตัวทั้งในและหน้าประตูตามที่เป็นข่าว
2. สำนักข่าวมติชน ออกข่าวว่า หมวดเจี๊ยบถูกจับที่หน้านิติพลคลินิก แต่พนักงานนิติพลคลินิกไม่เห็นเหตุการณ์รุนแรงใดๆหน้าคลินิกเลย น่าจะเป็นข่าวระบุชื่อคลินิกสับสน
3. หมวดเจี๊ยบเคยใช้บริการคลินิกเสริมความงามชื่ออื่นในย่านปทุมวัน ไม่ใช่นิติพลคลินิก แต่วันนี้มาใช้บริการคลินิกใดหรือไม่ เราไม่ทราบ เพราะคลินิกดังกล่าวอยู่ห่างจากนิติพลมาก ลูกค้าหรือคนไข้นิติพลคลินิก มีทั้งผู้มีความคิดเห็นทางการเมืองหลากหลายทุกฝ่าย นอกจากเราอบรมพนักงานเรื่องมาตรฐานการรักษาการบริการแล้วในช่วงสำคัญยิ่งขณะนี้ เราเน้นย้ำเสมอ บุคคลากรทุกคนต้องไม่แสดงออกทางการเมืองในนามขององค์กร เพื่อมิให้นำความขัดแย้งมาสู่คลินิกที่ซึ่งลูกค้าทุกคนต้องการความสงบส่วนตัว
นอกจากนี้ นายแพทย์นิติพล ยังระบุถึงผลกระทบในสภาวะการเมืองและเศรษฐกิจ ขณะนี้ว่า ทางนิติพลเองกระทบในภาพรวมเท่านั้น อย่างแรกเพราะสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาอยู่ขณะนี้ อย่างที่สองที่ทางนิติพลกระทบโดยตรงก็แค่เฉพาะสาขาที่อยู่ใกล้พื้นที่ชุมนุม แต่ทุกสาขายังสามารถเปิดได้ เบื้องต้นแม้ยอดขายจะลดเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่เป็นปัญหาเพราะธุรกิจสามารถปรับตัวได้
อัลบั้มภาพ 13 ภาพ