2 ล้านล้านจ่อคืนชีพในร่างงบประมาณปี 58

2 ล้านล้านจ่อคืนชีพในร่างงบประมาณปี 58

2 ล้านล้านจ่อคืนชีพในร่างงบประมาณปี 58
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สำนักงบประมาณเตรียมแผนงบประมาณ 2558 เสนอรัฐบาลใหม่พร้อมใส่งบลงทุน 2 ล้านล้านไว้ด้วย

นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการ สำนักงบประมาณ เปิดเผยว่าขณะนี้ได้เตรียมจัดทำร่างงบประมาณ 2558 ไว้แล้วเพื่อเตรียมเสนอรัฐบาลใหม่ และคาดว่าจะบรรจุเงินลงทุนในโครงการ 2 ล้านล้านบาทไว้ในงบประจำปีนี้ด้วย 

ซึ่งจะทำให้งบประมาณขาดดุลเพิ่มจาก 250,000 ล้านบาทในปีปัจจุบันเป็น 5 แสนล้านบาทในปีงบประมาณ 2558 แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นกับรัฐบาลใหม่ว่าจะใส่งบลงทุนเพิ่มเท่าไหร่ภายใต้ เงื่อนไขที่กู้ได้ไม่เกิน 20 % ของวงเงินงบประมาณ ซึ่งจะกระทบกับแผนการทำงบประมาณสมดุลภายในปี 2560 

นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่าการจัดทำงบประมาณปี 2558 คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมการบางส่วนไว้เสนอรัฐบาลใหม่คือ การพิจารณาดูงบประมาณรายจ่ายประจำขั้นต่ำ  รายจ่ายตามข้อผูกพันต่างๆ  ส่วนรายจ่ายเชิงยุทธศาสตร์นั้น ต้องรอให้มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ก่อน คาดว่า วงเงินประมาณปี 2558 จะมีประมาณ 2.7 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2 แสนล้านบาทจากปีปัจจุบัน 

ส่วนการปรับแผนลงทุนตามพ.ร.บ.เงินกู้เพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทหากนำมาใส่งบประมาณปกติคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 10 ปีจาก 7 ปี ตามพ.ร.บ.เงินกู้ที่ถูกศาลรัฐธรรมคว่ำไปและต้องจัดทำแผนแม่บทรองรับ และขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละรัฐบาลได้และระยะเวลา 10 อาจต้องทำโดยรัฐบาลอย่างน้อย 3 รัฐบาล 

ตามกำหนดการแล้วแผนจัดทำงบประมาณ ในสถานการณ์ปกติในเดือนพฤษภาคมครม.จะต้องอนุมัติร่างกฎหมายภายในต้นเดือน พฤษภาคมและส่งสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาวาระที่ 1 วันที่ 6 พฤษภาคม หลังจากวันวาระที่ 2 และ 3 จะอยู่ในภายในวันที่ 13-14 สิงหาคม และวันที่ 1 กันยายนให้วุฒิสภาพิจารณาและวันจันทร์ที่ 8 กันยายนส่งให้สำนักเลขาธิการครม.นำร่างพรบ.งบประมาณขึ้นทูลเกล้าเพื่อใช้งบ ประมาณใหม่ได้ทันวันที่ 1 ตุลาคม 

ด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. กล่าวถึงแผนจัดทำงบประมาณแบบ สมดุลตั้งแต่ปี 2555 เฉลี่ยลดการขาดดุลปีละ 25% ซึ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาได้ลดการขาดุลลงตามแผน ปี 2558 ตามแผนเดิมคาดว่าจะลดการขาดดุลเหลือ 1.5 แสนล้านบาทและปี 2560 จะสมดุล หรืออาจจะเลือกให้รัฐวิสาหกิจเจ้าของโครงการเงินกู้ดำเนินการแทนโดยกระทรวง การคลังค้ำประกันบางส่วน และการลงทุนผ่านความร่วมมือกับภาคเอกชน (PPPs) บางส่วน 

ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. ยังยืนยันว่าเศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวในระดับ 3% แม้จะไม่มีการลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท แต่ยังได้แรงหนุนจากการส่งออกที่มีแนวโน้มฟื้นตัวในปีนี้ตามภาวะเศรษฐกิจโลก โดยไทยยังมีโอกาสที่จะสามารถเพิ่มกำกลังการผลิตเพื่อส่งออกได้มากขึ้น โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์และชิ้นส่วน 

ด้านคนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ค โดยยืนยันว่าที่ผ่านมาได้ดำเนินการด้วยความรอบคอบและรักษาวินัยทางการคลัง รู้สึกโล่งใจเพราะการทำงานต้องรอบคอบให้หนักเพื่อไม่ให้โครงการผิดพลาด อีกเรื่องคือมั่นใจว่าโครงการส่วนใหญ่ในร่างพรบ.ฉบับนี้จะถูกดำเนินการจน สำเร็จเสร็จสิ้นในอนาคต โดยรัฐบาลประชาธิปไตยของประเทศไทยที่ต้องตอบคำถามประชาชนว่าจะสร้างศักยภาพ ทางคมนาคมขนส่งของประเทศให้แข่งขันได้ในทางเศรษฐกิจ และสร้างคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook