น้ำมันขึ้นเงียบเบนซินจ่อ50บ.รัฐผสมโรงรีดเงินเข้ากองทุน

น้ำมันขึ้นเงียบเบนซินจ่อ50บ.รัฐผสมโรงรีดเงินเข้ากองทุน

น้ำมันขึ้นเงียบเบนซินจ่อ50บ.รัฐผสมโรงรีดเงินเข้ากองทุน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศขึ้นเงียบ เบนซิน 95 เฉียด 50 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ทะลุ 41 บาท เหตุน้ำมันดิบดูไบปรับขึ้น 4-5 เหรียญ ค่าเงินบาทอ่อน-กองทุนน้ำมันฯเรียกเก็บเงินโหดลิตรละ 3-10 บาท จับตาวิกฤตการณ์ยูเครนจะเพิ่มความรุนแรงขึ้นหรือไม่

สถานการณ์ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศได้ปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ล่าสุดราคาน้ำมันเบนซิน 95 ขยับขึ้นไปถึงลิตรละ 49.05 บาท ขณะที่น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ก็ทะลุเพดานขึ้นมาถึงลิตรละ41.03 บาท และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ลิตรละ 38.58 บาท ส่วนน้ำมันดีเซล รัฐบาลยังคงตรึงราคาไว้ที่ลิตรละ 29.99 บาท(งดเก็บภาษีสรรพสามิต) จากราคาปกติที่จะต้องขึ้นไปถึงลิตรละ 40 บาท

นายสมนึก บำรุงสาลี อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงการใช้น้ำมันในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้ว่า ตัวเลขการใช้น้ำมันเบนซินรวมของเดือนกุมภาพันธ์ลดลงถึงร้อยละ 5 ส่วนการใช้น้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับเดือนมกราคมที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพการจราจรติดขัด (จากการชุมนุมประท้วงรัฐบาลรักษาการ) ส่งผลให้ประชาชนหันมาใช้บริการขนส่งมวลชนมากขึ้น ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงทำให้เกิดการประหยัดมากขึ้น ในขณะที่การใช้น้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากมีรถยนต์ส่วนบุคคลที่ใช้น้ำมันดีเซลเพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้ สถานการณ์ราคาน้ำมันล่าสุดยังถือว่ายืนราคาในระดับสูงเมื่อเทียบกับราคาเดือนมกราคมที่ผ่านมาในน้ำมันทุกประเภทเกือบ5-6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แบ่งเป็นราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ระหว่าง 104-105 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ประมาณ108 เหรียญ/บาร์เรล และราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสอยู่ระหว่าง 101-102 เหรียญ/บาร์เรล

"ปัจจุบันเกิดความไม่สงบในหลายประเทศส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ผู้ใช้จึงเร่งสั่งซื้อเพื่อสต๊อกน้ำมันไว้ใช้มากขึ้นส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นไปถึงขนาดนี้ แต่หากสถานการณ์ความตึงเครียดคลี่คลายลง ราคาน้ำมันจะมีโอกาสปรับลดลงมาได้" นายสมนึกกล่าว

ด้านหน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงานของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) รายงานราคาน้ำมันล่าสุด (14 มีนาคม 2557)ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ได้ปรับราคาลงหลังจากความต้องการใช้น้ำมันของประเทศจีนในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ ปรับตัวลดลงร้อยละ 3.1 จากปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ 9.98 ล้านบาร์เรล/วัน สอดคล้องกับตัวเลขทางเศรษฐกิจของจีนที่ต่ำกว่าคาดการณ์ส่วนราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสปรับราคาขึ้นเล็กน้อย ตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกยังคงตึงเครียด หลังรัสเซียประกาศเริ่มการซ้อมรบครั้งใหม่บริเวณพรมแดนยูเครน โดยรัสเซียส่งกำลังทหารเข้าไป 8,500 คน พร้อมอาวุธหนัก ในขณะที่เขตปกครองไครเมียของยูเครนเริ่มลงคะแนนเสียงสำหรับการทำประชามติแยกดินแดนที่จะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ โดยนายกรัฐมนตรี แองเกล่า แมร์เคิล ของเยอรมนี และประธานาธิบดีสหรัฐได้กล่าวเตือนรัสเซียว่า จะเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรมากขึ้น หากรัสเซียยังไม่หยุดแบ่งแยกดินแดนในยูเครน โดยความขัดแย้งดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อการส่งก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียมายังยุโรป ดังนั้น ปัจจัยสำคัญที่จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ ก็คือ 1)ท่าทีของประเทศต่าง ๆ ในสหภาพยุโรปต่อการคว่ำบาตรรัสเซีย 2)ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังความต้องการใช้น้ำมันดิบน้อยลง เนื่องจากโรงกลั่นหลายแห่งเตรียมเข้าสู่การซ่อมบำรุงโรงกลั่น นอกจากนี้โรงกลั่นหลายแห่งในยุโรป เอเชีย รวมถึงตะวันออกกลาง เตรียมเข้าสู่ฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในช่วงไตรมาส 2 นี้ด้วย

3)การประชุมธนาคารกลางสหรัฐช่วงวันที่ 17-18 มีนาคมนี้ ที่คาดว่าธนาคารกลางน่าจะดำเนินตามนโยบายปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) ลงต่อเนื่องเพราะเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวมากขึ้น และ 4)ปริมาณน้ำมันดิบในลิเบียที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังการผลิตน้ำมันดิบจากแหล่ง EI Sharara ผลิตเพิ่มขึ้นและการผลิตยังสูงกว่า 200,000 บาร์เรล/วัน

นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านพลังงาน กล่าวว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นเกิดจากความไม่สงบในยูเครน รวมกับเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐที่เริ่มฟื้นตัว ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันจึงปรับตัวสูงเหนือ 100 เหรียญ/บาร์เรลต่อเนื่อง หากสหรัฐและอียูไม่ประกาศคว่ำบาตรยูเครนในช่วงสัปดาห์หน้า อาจจะทำให้สถานการณ์ราคาน้ำมันเริ่มนิ่งขึ้น และไม่น่าจะมีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามากระทบให้ราคาปรับขึ้นไปอีก เนื่องจากตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไปถือว่าผ่านพ้นช่วงฤดูหนาวที่มีความต้องการใช้พลังงานค่อนข้างสูงไปแล้ว

คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กอยู่ที่ 98-100 เหรียญ/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ 108-110 เหรียญ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบดูไบ 105-106 เหรียญ/บาร์เรล อย่างไรก็ตามสัปดาห์หน้าราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศน่าจะมีโอกาสปรับราคาลดลงได้เนื่องจากค่าการตลาด (Margin) ของผู้ค้าน้ำมันในประเทศค่อนข้างสูงที่ 1.80-1.90 บาท/ลิตร

สถานะของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่รัฐบาลใช้เป็นกลไกในการอุดหนุนราคาพลังงานในประเทศพบว่า ยังมีการเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงค่อนข้างสูงมากแบ่งเป็นน้ำมันเบนซิน 95 เก็บอยู่ที่อัตรา 10 บาท/ลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E10) อยู่ที่ 3.30 บาท/ลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 (E10) อยู่ที่ 1.20 บาท/ลิตร และน้ำมันดีเซล 0.30 บาท/ลิตร ในขณะที่น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E20) กองทุนน้ำมันฯได้ใส่เงินเข้าไปชดเชยราคาให้กับผู้ค้าน้ำมันอยู่ที่ 1.05 บาท/ลิตร และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E85) ชดเชยสูงถึง 11.60 บาท/ลิตร

ส่วนการประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน ล่าสุด (5 มกราคม 2557) ฐานะกองทุนน้ำมันสุทธิติดลบ 698 ล้านบาท และยังคงมีหนี้สินรวม 19,473 ล้านบาท ซึ่งมาจากหนี้ค้างจ่ายเพื่อชดเชยราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) จากการนำเข้าจากต่างประเทศ 9,090 ล้านบาท เงินชดเชยราคาก๊าซ LPG ที่ผลิตโดยโรงกลั่นน้ำมันในประเทศ 3,485 ล้านบาท และหนี้ชดเชยราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) รวม 3,780 ล้านบาท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook