"หม่อมอุ๋ย" ชี้ไทยควรลงทุนระบบขนส่งขนาดใหญ่ แนะเลือกโครงการที่จำเป็น

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตผู้ว่าการการธนาคารแห่งประเทศ ระบุประเทศไทยยังจำเป็นต้องลงทุนระบบขนส่งขนาดใหญ่และเลือกลงทุนโครงการที่จำเป็นกับประเทศก่อน โดยเฉพาะโครงการปรับปรุงระบบรถไฟและรถไฟรางคู่มูลค่า 1,220,000 ล้านบาท

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศ กล่าวในงานสัมมนาหัวข้อ "การพัฒนาศักยภาพผู้นำ องค์กรภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน" ซึ่งจัดโดยมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ว่า เห็นด้วยที่ประเทศไทยต้องลงทุนระบบขนส่งขนาดใหญ่ แต่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนมูลค่าสูงถึง 2 ล้านล้านบาทก็สามารถดำเนินการได้ใน 7 ปี หากกู้เงินภายใต้ พ.ร.บ.หนี้สาธารณะไม่เกินร้อยละ 20 ของวงเงินงบประมาณ และบางมาตรายังเปิดช่องให้กู้เพิ่มได้อีกร้อยละ 10 ในกรณีมีความจำเป็นกับประเทศ โดยเห็นว่าหากตัดโครงการรถไฟความเร็วสูงออก จะใช้เงินลงทุนด้านระบบขนส่งประมาณ 1,220,000 ล้านบาท โดยเลือกลงทุนในโครการที่จำเป็นสำหรับประเทศก่อน ทั้งรถไฟรางคู่, ถนนเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน และท่าเรือในพื้นที่ภาคใต้ 

นอกจากนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า ภาคเอกชนไม่ควรกังวลมากเกินไปว่าความสามารถการแข่งขันของประเทศจะด้อยลง เพราะเชื่อว่าเมื่อมีรัฐบาลใหม่จะเร่งดำเนินการลงทุนด้านระบบขนส่ง ส่วนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยครั้งล่าสุดเชื่อว่า จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ แม้ขณะนี้การบริโภคและการลงทุนชะลอลง เนื่องจากไม่มีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มเข้ามาบริหารประเทศ และหากการตั้งรัฐบาลใหม่ไม่เกิดขึ้นภายในครึ่งปีแรก มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยจะไม่ติดลบ พร้อมกันนี้ยังฝากถึงผู้นำองค์กรของรัฐและรัฐวิสาหกิจให้รักษาความน่าเชื่อถือขององค์กรไว้ไม่ให้เกิดความเสียหาย ซึ่งกรณีล่าสุดที่เกิดขึ้นกับธนาคารออมสินที่มีแผนให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) กู้ใช้ในโครงการรับจำนำข้าว ที่สามารถแก้ไขปัญหาชื่อเสียงของธนาคารได้ทัน หลังผู้นำองค์กรประกาศลาออก