พลังงาน ห่วง13มิ.ย.-10ก.ค.ไฟฟ้าภาคใต้ไม่พอ
กระทรวงพลังงาน เผย แหล่งก๊าซเจดีเอ ปิดซ่อม 13 มิ.ย. - 10 ก.ค. เสี่ยงไฟฟ้าภาคใต้ไม่พอ นัดวางแผนรับมือหลังสงกรานต์ เร่งลงทุนโรงผลิตก๊าซจากหญ้าเนเปียร์ ตั้งเป้ากำลังการผลิตในอนาคต 3 พันเมกะวัตต์ ภายในปี 64
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การเตรียมแผนรับมือวิกฤติไฟฟ้า กรณีแหล่งก๊าซหยุดซ่อมบำรุง 2 แหล่งหลัก ในปี 2557 คือ แหล่งบงกช ในช่วงระหว่างวันที่ 10 - 27 เมษายน ทางกระทรวง
พลังงาน จะร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อป้องกันปัญหา ยืนยัน จะไม่มีปัญหาไฟฟ้าดับ เพราะยังมีสำรองไฟฟ้าเหลืออยู่ประมาณ 4,000 เมกะวัตต์ แต่ทั้งนี้ มีความเป็นห่วงถึงการใช้ไฟฟ้าในภาคใต้ ที่มีความเสี่ยงปริมาณไฟฟ้าไม่เพียงพอ จากการหยุดซ่อมแหล่งก๊าซธรรมชาติ ในพื้นที่พัฒนาร่วมระหว่างไทยและมาเลเซีย (เจดีเอ) ที่ปิดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ ในระหว่างวันที่ 13 มิถุนายน - 10 กรกฎาคม ทำให้โรงไฟฟ้าจะนะ จ.สงขลา กำลังผลิต 700 เมกะวัตต์ ต้องหยุดผลิต ในขณะที่ความต้องการใช้ คาดว่าจะอยู่ที่ 2,543 เมกะวัตต์ เมื่อคำนวณจากกำลังการผลิตในพื้นที่แล้ว ทำให้ในช่วงพีคที่เกิดขึ้นในช่วงค่ำ ไฟฟ้าในภาคใต้จะขาดแคลนประมาณ 200 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงาน ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานดูแลไม่ให้เกิดไฟฟ้าดับทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ เช่นปีที่
ผ่านมา โดยกำหนดมาตรการหลัก 3 ข้อ คือ รณรงค์ประหยัดพลังงานลดการใช้ลงประมาณร้อยละ 10 ให้
การไฟฟ้าฝ่ายผลิต ส่งไฟฟ้าจากภาคกลางไปเสริมภาคใต้เพิ่มจาก 500 เมกะวัตต์ เป็นไม่ต่ำกว่า 700 เมกะวัตต์ และหากกรณีไฟฟ้าไม่เพียงพอ จะประสานงานกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยอาจจำเป็นต้องดับไฟฟ้าบางพื้นที่ แต่จะพิจารณาให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด โดยจะวางแผนซ้อมรับมือหลังสงกรานต์
'พลังงาน' เร่งลงทุนผลิตก๊าซจากหญ้าเนเปียร์
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงโครงการศึกษาวิจัยต้นแบบวิสาหกิจชุมชนพลังงานสีเขียวจากพืชพลังงานว่า กองทุนอนุรักษ์พลังงานได้ให้เงินสนับสนุนโครงการจำนวน 260 ล้านบาท เพื่อใช้ส่งเสริมและจูงใจภาคเอกชนที่สนใจจะลงทุน โดยมีแผนจะจัดสร้างโรงงานผลิตก๊าซชีวภาพจากหญ้าเนเปียร์รวม 10 แห่งภายในปี 2558 ในพื้นที่แล้งน้ำ พื้นที่ชุ่มน้ำ และพื้นที่ที่ปลูกข้าวไม่ได้ทั่วประเทศ กำลังการผลิตโรงละ 1 - 2 เมกะวัตต์ แต่ละโรงใช้หญ้าเนเปียร์ 100 - 120 ตันต่อวัน ซึ่งเป็นโครงการที่จะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้จากการปลูกหญ้าขายให้แก่โรงผลิตก๊าซ และจะเร่งส่งเสริมการปลูกหญ้าเนเปียร์มากขึ้น ด้วยการบรรจุลงในแผนอนุรักษ์พลังงาน 20 ปี หรือ EEDP เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตก๊าซรวมเป็น 3,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2564 โดยขณะนี้มีนักวิชาการจากมหาวิทยาลัย 2 - 3 แห่ง เข้าร่วมวิจัยด้วย โดยเฉพาะ มหาวิทยาลัยจากเยอรมัน ซึ่งเป็นประเทศที่มีโรงผลิตก๊าซจากหญ้าเนเปียร์ กว่า 10,000 โรง ขณะที่อัตรารับซื้อไฟฟ้าระบบสนับสนุนเงินการผลิตไฟฟ้า ตามต้นทุนที่แท้จริง หรือ ฟีด อินทารีฟ ที่สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือ สนพ. กำหนดไว้ที่ 4.50 บาทต่อหน่วย แต่ภาคเอกชนเห็นว่าต่ำจนไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ขณะนี้กระทรวงพลังงาน ได้สั่งการให้ สนพ. ทบทวนและหาอัตราฟีดอินฯ ที่เหมาะสมแล้ว ก่อนที่จะนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช. เมื่อการจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้วเสร็จ