สรท.มองวิกฤติยูเครนยืดเยื้อฉุดGDPโลกลง1%

สรท.มองวิกฤติยูเครนยืดเยื้อฉุดGDPโลกลง1%

สรท.มองวิกฤติยูเครนยืดเยื้อฉุดGDPโลกลง1%
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สรท. มอง ความขัดแย้งวิกฤติยูเครนหากยืดเยื้อ ฉุด GDP โลกลดลง 1% เหลือ 2.5-3% ต่ำกว่าเป้าที่คาดจะโต 3.7-4%

นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สทร.) เปิดเผยว่า ความขัดแย้งวิกฤตการณ์ไครเมีย ระหว่างรัสเซีย กับสหรัฐ ขณะนี้มีแนวโน้มขยายตัวไปสู่ส่งครามทางเศรษฐกิจ โดยล่าสุด รัสเซียมีความพยายามในการดึงจีนให้เข้าร่วมกดดันทางเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยการลดบทบาทค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งตรงกับความต้องการของจีน ที่จะยกค่าเงินหยวนเป็นค่าเงินหลักอันดับ 5 ของโลก ล่าสุดก็ได้ประกาศให้เมืองเซี่ยงไฮ้ เป็นศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาค และเร่งกักตุนทองคำ เพื่อลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยจะส่งผลให้จีดีพีโลกขยายตัวลดลงร้อยละ 1 เหลือเพียงร้อยละ 2.5-3 ต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.7- 4 และยังต่ำกว่าจีดีพีโลกในปี 2556 ที่ขยายตัวร้อยละ 3.1 ซึ่งเศรษฐกิจโลกที่ลดลง ร้อยละ 1 นับเป็นมูลค่าการค้าที่สูงมาก รวมทั้งยังส่งผลให้ค่าเงินทุกสกุลทั่วโลกอ่อนตัวลงร้อยละ 10-20 ถือว่าวิกฤติการเงินครั้งนี้จะรุนแรงครั้งที่ผ่านมา

โดยในส่วนของประเทศไทย จะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจรุนแรงกว่าประเทศอื่น เนื่องจากตลาดภายในประเทศได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการเมือง ทำให้ยอดการบริโภคภายในประเทศลดลงมาก ต้องพึ่งพาการส่งออกเพียงอย่างเดียว ซึ่งหากตลาดส่งออกมีปัญหา ก็จะยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยให้ย่ำแย่มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบทางตรงด้านการส่งออกจะมีไม่มาก เพราะไทยมีสัดส่วนการค้ากับรัสเซียและยุโรปตะวันออกเพียงร้อยละ 0.5 ของการส่งออกทั้งหมด แต่ปัญหาทางอ้อมจะย้อนกลับมากระทบประเทศไทยอย่างรุนแรง เพราะระบบการเงินโลกจะปั่นป่วน การบริโภคของตลาดโลกจะลดลงเป็นอย่างมาก ทำให้ไทยซึ่งขณะนี้พึ่งพาการส่งออกเพียงอย่างเดียว จะได้รับผลกระทบรุนแรงกว่าประเทศอื่น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook