บีโอไอ คงเป้าลงทุนปีนี้ 9 แสนล้านบาท
บีโอไอ มั่นใจ คงเป้าการลงทุนปีนี้ 9 แสนล้านบาท รับอานิสงส์จากโครงการอีโคคาร์ 2 เชื่อทำให้ไทยสู่ผู้ผลิตอันดับ 5 ของโลก
นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่าในไตรมาสแรกของปีนี้ตั้งแต่เดือน ม.ค. - มี.ค. มีโครงการยื่นขอส่งเสริมการลงทุนแล้ว 200 โครงการ มูลค่ารวม 2 แสนล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งในจำนวนดังกล่าวได้รวมโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงาน (อีโคคาร์ระยะที่ 2) มีมูลค่าการลงทุน 1.38 แสนล้านบาท โดยยอมรับว่า เม็ดเงินจากการลงทุนของโครงการอีโคคาร์ 2 เข้ามาช่วยเพิ่มเม็ดเงิน ขอรับการส่งเสริมการลงทุนในระดับหนึ่ง แต่ บีโอไอ ยังมั่นใจถึงเป้าหมายการยื่นขอรับการส่งเสริมตลอดทั้งปีนี้ ที่กำหนดไว้ 900,000 ล้านบาท ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายเดิม เพราะมั่นใจว่านักลงทุนต่างชาติเข้าใจถึงปัญหาสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทย และยังคงรอการอนุมัติจากบีโอไอได้ โดยขณะนี้ ยังไม่มีรายใดแจ้งขอยกเลิกการลงทุน มีเพียงบางรายที่ขอปรับมูลค่าโครงการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ทั้งนี้เห็นว่าประเทศไทยควรสร้างบรรยากาศการลงทุนให้ดีขึ้น เพื่อเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับคืนมา
นอกจากนี้ นายอุดม กล่าวว่า โครงการลงทุนอีโคคาร์ 2 มีส่วนสำคัญต่อการทำให้ไทย รักษาเป้าหมายการเป็นเบอร์หนึ่ง ในการผลิตรถยนต์ในอาเซียน และอนาคตจะทำให้ประเทศไทย เป็นผู้ผลิตรถยนต์เป็นอันดับ 5 ของโลก จากปัจจุบันเป็นอันดับ 9 โดยกิจการที่ บีโอไอ มองเป้าหมายที่ส่งเสริมเป็นกรณีพิเศษในอนาคตนอกเหนือจากอุตสาหกรรมรถยนต์แล้วยังมองไปที่อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป ซึ่งประเทศไทยมีความแข็งแกร่ง รองลงมาเป็นกิจการอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว