ส.ปิโตรเลียมเหลวเผยคนใช้สิทธิ์ชดเชยขึ้นก๊าซเพิ่ม
สมาคมผู้ค้าปิโตรเลียมเหลว เผย คนใช้สิทธิ์ซื้อก๊าซราคาเดิมมากขึ้น อาจพบปัญหา ยืนยัน ไม่มีการหักภาษีในส่วนของเงินชดเชย ไร้ลักลอบใช้ผิดประเภท
นายชิษณุพงษ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) เปิดเผยว่า การปรับราคาก๊าซแอลพีจีภาคครัวเรือนเดือนละ 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม จนสะท้อนต้นทุนโรงแยกก๊าซที่ 24.83 บาท ขณะนี้ประชาชนได้ใช้สิทธิ์ร่วมเข้าโครงการบรรเทาผลกระทบจากผู้มีรายได้น้อยในการซื้อก๊าซราคาเดิมมีจำนวนมากขึ้น เพราะส่วนต่างของราคาก๊าซปรับเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ขณะนี้อาจมีปัญหาการร้องเรียนจากร้านค้าก๊าซรายย่อยเข้ามาบ้าง ถึงการจ่ายเงินสำรองจากผู้ค้ามาตรา 7 ที่ล่าช้า และการแบกรับภาระจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างของราคาก๊าซไปก่อน ทั้งนี้ ปัญหาดังกล่าวได้มีการพูดคุยหารือกับทางผู้ค้ามาตรา 7 ให้เร่งรัดจ่ายเงินสำรองชดเชยให้กับร้านค้าก๊าซรายย่อยให้ทั่วถึง ซึ่งทางสมาคมฯ เร่งแก้ไขการจ่ายเงินล่าช้ามาเป็นเวลา 2 เดือนแล้ว โดยพบว่าจะเกิดขึ้นกับร้านค้าก๊าซรายย่อยที่เป็นร้านเล็กร้านน้อย หรือร้านค้าก๊าซที่เข้าร่วมโครงการในระยะแรก ที่เริ่มทำสัญญาจ่ายเงินสำรองกับผู้ค้ามาตรา 7 จึงอาจมีความล่าช้าเกิดขึ้น
ส่วนกรณีร้านค้าก๊าซรายย่อยถูกหักเงินภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% และภาษีเงินได้ 7% ในส่วนของเงินชดเชยจากการสำรองเงินจ่ายนั้น นายชิษณุพงษ์ กล่าวว่า อาจเป็นการเข้าใจผิด โดยในที่ประชุมได้มีการพูดคุย ระหว่างสมาคม ผู้ค้ามาตรา 7 และกรมธุรกิจพลังงาน ว่าจะไม่มีการหักภาษีใดๆ จากการจ่ายเงินสำรองชดเชยนี้ โดยทางกรมธุรกิจพลังงาน ได้ยืนยันหลังจากมีการพูดคุยกับกรมสรรพากรในการงดหักภาษีดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ ร้านค้าก๊าซที่ถูกหักภาษีสามารถติดต่อทำเนื่องแจ้งไปยังผู้ค้ามาตรา 7 สมาคม กรมธุรกิจพลังงานและพลังงานจังหวัด
ขณะที่ LPG ภาคครัวเรือน แตกต่างกับราคาก๊าซ LPG ภาคขนส่ง ไม่มากนัก จึงไม่ได้เป็นแรงจูงใจให้ประชาชนลักลอบใช้ก๊าซข้ามประเภท เพื่อกำไรจากส่วนต่างของราคา