ผู้ค้าก๊าซรายย่อยร้องได้เงินชดเชยขึ้นค่าก๊าซช้า

ผู้ค้าก๊าซรายย่อย เดือดร้อนหลังผู้ค้ามาตรา 7 จ่ายเงินชดเชยในโครงการซื้อก๊าซราคาเดิมล่าช้า

จากมติของคณะรัฐมนตรี ที่ให้กระทรวงพลังงาน ปรับขึ้นราคาแอลพีจี ภาคครัวเรือน เพิ่มขึ้น 50 สตางค์ต่อเดือน ตั้งแต่ 1 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา จนสะท้อนต้นทุนโรงแยกก๊าซธรรมชาติที่ 24.82 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งขณะนี้ เข้าสู่เดือนที่ 8 ที่มีการปรับราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนโดยราคาของถังบรรจุขนาด 15 กิโลกรัม มีราคาปรับเพิ่มขึ้นเป็น 60 บาท จากเดือนสิงหาคม 2556 

ซึ่งจากการลงพื้นที่สำรวจร้านค้าจำหน่ายก๊าซที่เข้าร่วมโครงการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม ในการซื้อแก๊สในราคาเดิม 18.13 บาท/กิโลกรัม ย่านเขตธนบุรี บริเวณแขวงตลาดพลู แขวงวุฒากาศ และแขวงบางยี่เรือ พบว่า ร้านค้าก๊าซรายย่อยที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวประสบปัญหาการจ่ายเงินชดเชยจากผู้ค้าตามมาตรา 7 ที่ล่าช้า และไม่สำรองเงินอุดหนุนจำหน่ายก๊าซฯ ราคาเดิมให้กับร้านค้าก๊าซจนเกิดผลกระทบ รวมถึงประสบปัญหาการถูกหักภาษีเงินได้ร้อยละ 7 จากผู้ค้ามาตรา 7 ในการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาเดิมและราคาที่มีการปรับใหม่ หลังจากร้านค้าจ่ายเงินสำรองให้กับประชาชนที่ใช้สิทธิ์ซื้อก๊าซราคาเดิมไปก่อน

ทั้งนี้ นางกนกวรรณ โกมลรัตนเสถียร ผู้ค้าก๊าซรายย่อย รหัส 105460 ที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ย่านแขวงตลาดพลู กล่าวว่า ตั้งแต่การปรับขึ้นราคาก๊าซตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมาพบว่ามีราคาส่วนต่างที่เพิ่มขึ้น และทางร้านค้าต้องแบกรับออกเงินส่วนต่างประมาณ 10,000 บาทขึ้นไป และทางผู้ค้ามาตรา 7 จะจ่ายเงินชดเชยย้อนหลัง กลับคืนมา ทั้งนี้ ร้านของตนได้ประสบปัญหาการถูกหักภาษีจากผู้ค้ามาตรา 7 ซึ่งทางตนได้ชี้แจงไปที่บริษัท ของผู้ค้ามาตรา 7 แล้วตั้งแต่เดือนตุลาคม แต่ยังไม่มีความคืบหน้า และขณะนี้ก็ยังคงถูกหักภาษี เงินจ่ายชดเชยสำรองไม่ตรงกับยอด SMS ที่ประชาชนกดเข้ามาใช้สิทธิ์