พาณิชย์ปรับแนวทางรับมือเออีซี หวั่นเอกชนไทยสู้ต่างชาติได้ไม่เต็มที่

พาณิชย์ปรับแนวทางรับมือเออีซี หวั่นเอกชนไทยสู้ต่างชาติได้ไม่เต็มที่

พาณิชย์ปรับแนวทางรับมือเออีซี หวั่นเอกชนไทยสู้ต่างชาติได้ไม่เต็มที่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปรับแผนจับมือกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ทำหน้าที่พี่เลี้ยงเสริมทัพให้ธุรกิจเอสเอ็มอี-โอท็อปไทย มีความเข้มแข็งรับมือเออีซีปีหน้า ย้ำแข่งขันดุเดือด หากเอกชนไทยไม่เร่งปรับตัวมีปัญหาแน่

น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าอยู่ระหว่างปรับแผนงานและแนวทางกระตุ้นให้ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีและธุรกิจโอท็อปต่างๆ ที่ขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิก มีความประสงค์ต้องการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าช่วยเหลือในด้านต่างๆ เช่น การบริหารและจัดการ การเชื่อมโยงด้านธุรกิจ การหาแหล่งวัตถุดิบ การลดต้นทุน การจัดอบรม การนำภาคธุรกิจไปดูงานธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำมาปรับใช้ในกิจการตนเอง และอื่นๆ ที่กรมฯ สามารถให้ความช่วยเหลือทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง ทั้งทางตรงและทางอ้อม ตามที่นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ มีความเป็นห่วงการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ปีหน้าการแข่งขันภาคธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศจะสูงมาก เท่าที่ได้ติดตามหลายธุรกิจน่าเป็นห่วง ดังนั้น หากเอกชนไทยยังไม่เร่งปรับตัว จะมีปัญหาการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียนอย่างมากได้

อย่างไรก็ตาม แผนงานกระตุ้นธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อสร้างความเข้มแข็งนั้น กรมฯ ได้จัดเตรียมให้ธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอีและโอท็อป สามารถผลิตสินค้า และเชื่อมโยงผู้ซื้อและผู้ขาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าด้วยกัน ซึ่งกรมฯ และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จะร่วมมือกันส่งเสริมและสนับสนุนในด้านต่างๆ อย่างเต็มที่ เพิ่มช่องทางกระจายสินค้าให้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศผ่านการจัดงานแฟร์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ไปพร้อมกับการหาแหล่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพ เพื่อให้การผลิตสินค้าไทยมีคุณภาพและมาตรฐานเพิ่มมากขึ้น และในช่วงปลายเดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้ กรมฯ เตรียมจัดงาน “ค้าส่งรวมใจ โชห่วยไทยคู่สังคม” ซึ่งเป็นกิจกรรมส่งเสริมการขายและจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษ ณ ร้านค้าส่งที่เข้าร่วมกิจกรรมทั่วประเทศ โดยมีร้านค้าส่งกว่า 50 ราย และเครือข่ายร้านค้าปลีกกว่า 5,000 ราย เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งราคาสินค้าจะถูกกว่าท้องตลาด

ทั้งนี้ จะมีสินค้าที่ร่วมรายการส่งเสริมการขายต่อการครองชีพ เช่น ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำมันพืช น้ำพริกเผา ซอสปรุงรส โฟมล้างหน้า แป้งหอมเย็น สบู่เหลว ยากันยุง น้ำหอมปรับอากาศ น้ำยาทำความสะอาดพื้นห้องน้ำ ผ้าอ้อมเด็ก ยาสระผม แป้งฝุ่นสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ผ้าอนามัย โดยผลคาดว่าจะได้รับ ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกมีแนวทางในการบริหารจัดการร้านค้าที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น สามารถลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ โดยมีการปรับปรุงภาพลักษณ์ร้านค้าให้ทันสมัย และมีการให้บริการเสริมต่างๆ อย่างครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้สูงสุด ขณะที่ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกมีเครือข่ายพันธมิตรทางการค้าที่ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เพื่อพัฒนาธุรกิจให้มีศักยภาพ มีความเข้มแข็ง แข่งขันได้อย่างยั่งยืนเพิ่มขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook