แกรนท์ ธอนตัน ชี้ กระแสควบรวม-ซื้อขายกิจการพุ่ง

แกรนท์ ธอนตัน ชี้ กระแสการควบรวมและซื้อขายกิจการทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ประเทศไทย มีอัตราเฉลี่ยต่ำที่สุด

ผลสำรวจล่าสุดในรายงานผลการสำรวจธุรกิจนานาชาติประจำปีของแกรนท์ ธอนตัน (IBR) เผยกระแสการควบรวมและซื้อขายกิจการทั่วโลกเพิ่มจำนวนสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา ขณะประเทศไทยกลับมีจำนวนต่ำที่สุด รั้งอันดับสุดท้ายของการสำรวจจาก 44 ประเทศทั่วโลก แสดงให้เห็นว่าร้อยละ 31 ของธุรกิจทั่วโลกคาดหวังที่จะใช้การควบรวมและซื้อขายกิจการ เป็นกลยุทธ์เพื่อจะสร้างความเติบโตให้องค์กรของตนตลอดช่วง 3 ปีข้างหน้า เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 28 ในปี 2555 ขณะที่ประเทศไทยมีเพียงร้อยละ 8 เท่านั้น ถือเป็นจำนวนน้อยที่สุดและเป็นอันดับสุดท้ายในการสำรวจครั้งนี้ ซึ่งตกลงจากอันดับรองสุดท้ายในปีก่อน ขณะที่ภาพรวมของกลุ่มประเทศในอาเซียนอยู่ที่ร้อยละ 21 นอกจากนี้ รายงาน IBR ยังพบว่ามีผู้บริหารในไทย เพียงร้อยละ 5 ที่คาดว่าจะขายกิจการของตน ภายใน 3 ปีข้างหน้าต่ำสุดเป็นอันดับที่ 3 ในการสำรวจ รองจากอาร์เมเนียและจอร์เจีย ซึ่งสวนกระแสกลุ่มประเทศในอาเซียนที่มีถึงร้อยละ 14 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5 ในปีที่ผ่านมา 

คุณจุฬาภรณ์ นำชัยศิริ กรรมการผู้จัดการสายงานธุรกิจการเงินของแกรนท์ ธอนตัน ประเทศไทย กล่าวว่า แม้ตัวเลขดังกล่าวจะดูไม่ค่อยดีเท่าไรนักสำหรับประเทศไทย แต่หากมองในแง่ดี อาจเป็นเพราะบริษัทต่างๆ อาจมีการเลื่อนแผนควบรวมกิจการของตนเองออกไปก่อน เนื่องจากปัญหาความผันผวนด้านการเมืองและเศรษฐกิจในปัจจุบันของไทย แต่สิ่งที่แย่ที่สุดคือ บริษัทต่างๆ อาจพลาดโอกาสที่น่าสนใจ ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และแนวคิดในการทำธุรกิจเชิงรุกมากขึ้นจากประเทศเพื่อนบ้านของเรา