โหวตไทยขึ้นปธ.อาหารสัตว์ฯ ชี้แนวโน้มวัตถุดิบปีนี้ราคาพุ่ง

โหวตไทยขึ้นปธ.อาหารสัตว์ฯ ชี้แนวโน้มวัตถุดิบปีนี้ราคาพุ่ง

โหวตไทยขึ้นปธ.อาหารสัตว์ฯ ชี้แนวโน้มวัตถุดิบปีนี้ราคาพุ่ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้ผลิตอาหารสัตว์อาเซียนโหวตให้ไทยเป็นประธานสมาพันธ์อาหารสัตว์อาเซียน เพื่อเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก "พรศิลป์" ชี้แนวโน้มวัตถุดิบอาหารสัตว์ปีนี้จะสูงกว่าปีที่ผ่านมา

นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงการประชุมผู้ผลิตอาหารสัตว์อาเซียนว่า ที่ประชุมมีมติโหวตให้ประเทศไทยเป็นประธานสมาพันธ์อาหารสัตว์อาเซียน เพราะมองว่าอาเซียนต้องเข้าไปผนวกกับเศรษฐกิจโลก จำเป็นต้องตั้งองค์กรขึ้นมาทำงานร่วมกัน ต้องมีมาตรฐานการผลิตอาหารสัตว์ ถ้าไม่มีมาตรฐานก็ผนวกไม่ได้ แข่งขันไม่ได้ การผลิตต้องมีการเชื่อมโยงกันให้หมด ต้องเป็น Value Chain สิ่งที่ขาดต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาจัดการ ต้องมีการลงทุนเพิ่มเพื่อให้ได้มาตรฐาน แก้โลจิสติกส์ที่มีต้นทุนสูง

ในการเข้าสู่ตลาดโลก ต้องเอาโลกเป็นโจทย์ โจทย์ที่ทุกประเทศสรุปความเห็นร่วมกันคือ สิ่งที่ท้าทายในอนาคตอันใกล้นี้ ได้แก่ จำนวนประชากรอาเซียนที่เพิ่มขึ้น การผลิตอาหารสัตว์ก็ต้องผลิตเพิ่มขึ้น วัตถุดิบที่ผลิตได้เอง จะต้องไปเพิ่มผลผลิตให้มากขึ้น ในขณะที่วัตถุดิบนำเข้ามีความเสี่ยงสูง อาจเกิดปัญหาจากประเทศผู้ส่งออก

ต่อไปอาเซียนจะรวมกันเป็นตลาดเดียว ฐานผลิตเดียว การจะทำเช่นนั้นได้ต้องมีการเชื่อมโยงวัตถุดิบให้หมด เพราะต่อไปวัตถุดิบจะเคลื่อนย้ายไปทุกแห่งได้ นอกจากนี้ทุกคนต้องแข่งขันกันได้ ทุกคนต้องเก่งหมด การที่ทุกคนจะเกิดตรงนี้ได้ สิ่งที่ผลิตขึ้นมาจะต้องปลอดภัยและต้องมีความมั่นคงด้วย ทั้งวัตถุดิบ ทั้งอาหารสัตว์

ประการต่อมาคือ เป้าหมายอาเซียนต้องพัฒนาไปพร้อมกัน ไม่ทิ้งคนใดคนหนึ่งอยู่ข้างหลัง คนจน คนรวยต้องไปด้วยกันหมด เข้าข่ายความยั่งยืน การผลิต การทำธุรกิจต้องยั่งยืน ต้องลดความยากจน การดูแลแรงงาน เหล่านี้คือโจทย์ที่จะต้องทำงานร่วมกัน

สำหรับแนวโน้ม วัตถุดิบอาหารสัตว์ในปีนี้นั้น นายพรศิลป์กล่าวว่า วัตถุดิบอาหารสัตว์ในปีนี้โดยรวมแล้วจะสูงกว่าปีที่ผ่านมา ในส่วนข้าวโพดขณะนี้หน้าไซโลของโรงงานอาหารสัตว์จะรับซื้อ กก.ละ 8 บาทเศษ ราคาไม่ลดลง เพราะรัฐบาลพยายามดันราคาข้าวโพดไม่ให้ต่ำกว่า กก.ละ 8.50 บาท บวกกับสภาพอากาศแห้งแล้งด้วย คาดว่าปีนี้ราคาข้าวโพดจะไม่ต่ำกว่า กก.ละ 8.50 บาท

กากถั่วเหลืองปีนี้ราคาจะสูงกว่าปีที่แล้ว ผลผลิตถั่วเหลืองของอาร์เจนตินาและบราซิลผู้ผลิตรายใหญ่อยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ และออกสู่ตลาดแล้ว ขณะที่ถั่วเหลืองจากสหรัฐอเมริกากำลังจะออกสู่ตลาด ส่วนการปลูกถั่วเหลืองภายในประเทศไทยปีนี้มีแนวโน้มประสบภัยแล้ง แนวโน้มโดยรวมราคากากถั่วเหลืองปีนี้จะไม่ต่ำกว่า กก.ละ 20 บาท

ทางด้านปลาป่น ราคาปีนี้สูงพอสมควร เกรดกุ้งราคา กก.ละ 30 กว่าบาท เพราะการเลี้ยงกุ้งในประเทศเริ่มฟื้นตัว อีกทั้งมีปัญหาเรือประมงไทยเกิดปัญหากับทหารอินโดนีเซีย ทำให้เรือที่จะไปจับปลาในน่านน้ำของอินโดนีเซียไม่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปลาเป็ดที่จะมาขึ้นที่ท่าเรือไทยน้อยลง คาดว่าราคาปลาป่นจะยืนแข็งทั้งปี

ส่วนประเด็นความร่วมมือของ 8 สมาคมด้านการประมง รณรงค์ให้มีการทำประมงและรับซื้อปลาจากการทำประมงถูกกฎหมายนั้น นายพรศิลป์กล่าวว่า ถ้ายังมีผู้ลักลอบทำประมงผิดกฎหมายอยู่ คนทำประมงถูกกฎหมายก็ต้องท้อ ฉะนั้นฝ่ายผู้ซื้อคือโรงงานอาหารสัตว์ ก็ต้องใช้วิธีการเพิ่มราคารับซื้อปลาเป็ดที่ถูกกฎหมายเพื่อจูงใจ คาดว่า 2-3 ปีข้างหน้า การทำประมงถูกกฎหมายจะดีขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook