แรงงานไทยหนี้บานทะลุแสนล้าน

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ผลสำรวจสถานภาพแรงงานไทย จากการสำรวจประชาชน 1,200 ราย ระหว่างวันที่ 17-21 เมษายน พบว่าแรงงาน 93.7% ยอมรับว่ามีภาระหนี้ โดยเฉพาะแรงงานรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท สัดส่วน 60% มีหนี้มากกว่ารายได้ และ 50% ต้องกู้ยืมเพื่อใช่จ่ายในชีวิตประจำวันและชำระค่าที่พักอาศัย

ทั้งนี้ปัจจุบันแรงงงานไทยมีภาระหนี้รวม 1.6 แสนล้านบาท /ครัวเรือน โดยเป็นหนี้นอกระบบสูงถึง 56% และหนี้ในระบบ 43.9% ซึ่งยอดผ่อนชำระหนี้ 7,412 บาทต่อเดือน เป็นมูลค่าสูงสุดที่เคยจัดทำสำรวจหรือในรอบ 6 ปี นับจาก 2552 และหนี้นอกระบบสูงเป็นประวัติการณ์

สำหรับวันหยุดแรงงาน 1 พฤษภาคม ประเมินค่าใช้จ่ายต่อคน 957.68 บาท ทั้งระบุว่าบรรจยากาศวันแรงงานคึกคักเท่าปีก่อน เพราะปัญหาการเมืองและเห็นว่าเศรษฐกิจไทยแย่ลง จึงทำให้ใช้จ่ายแรงงานปีนี้ขยายตัวแค่ 2.3% มูลค่า 1,965 ล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 6 ปี

โดยแรงงานเริ่มวิตกต่อโอกาสตกงานมากขึ้น และมองว่าโอกาสหางานใหม่ยากขึ้น ทั้งกังวลในเรื่องหนี้สินเพิ่ม เป็นอันดับแรก จึงเสนอให้รัฐบาลพิจารณาปรับอัตราแรงงานขึ้นต่ำเป็น 498.06 บาท ใน 3 ปีข้างหน้า และ 579.74 บาท ใน 5 ปีข่างหน้า จากปัจจุบัน 300 บาทซึ่งแรงงานขั้นต่ำเหมาะสมปัจจุบันควร 388.25 บาท

ส่วนผลสำรวจจากธุรกิจ ระบุว่าจะไม่มีการจ้างแรงงานใหม่ แต่ยังไม่ถึงกับปรับลดแรงงาน แต่หากการเมืองยังไม่มีเสถียรภาพและเศรษฐกิจไม่ดีขึ้น อาจต้องลดแรงงานในเดือนกันยายนถึงตุลาคมนี้ หลังจากบางส่วนลดเวลาทำงานและเงินรายได้พิเศษแล้ว ก็ทำให้วิตกว่าอัตราว่างงานมีโอกาสเพิ่มเป็น 1.5-1.7% ของแรงงานทั้งหมด หรือประมาณ 6 แสนคน มากสุดในรอบ 10 ปี และเศรษฐกิจไทยขยายตัว 0-2% เป็นอัตราว่างงานเพิ่มจากปีก่อน 0.7% ฉะนั้นหากการเมืองยังไม่มีเสถียรภาพภายในครึ่งปีหลังนี้ จะกระทบต่อแรงงานไทยในอนาคตที่อาจตกงานเพิ่ม