ก.แรงงานเผย 7 อาชีพที่มีความต้องการในเออีซี
กระทรวงแรงงาน เผย 7 อาชีพที่มีความต้องการในเออีซี ซึ่งคนไทยมีความถนัด ขณะที่อาชีพเชฟ หรือนวดแผนไทยถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะไปทำงานในมาเลเซีย
นายสุเมธ มโหสถ รองปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยผลการศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์และแนวโน้มแรงงานในโครงการเตรียมการรองรับการเคลื่อนย้ายของแรงงานสู่การเป็นประชาคมอาเซียน(เออีซี)ว่า จากการศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์และแนวโน้มของแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานต่างประเทศ นำมาวิเคราะห์กับมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ วิเคราะห์โอกาส แนวโน้มความต้องการแรงงานไทยในตลาดแรงงาน พบว่าอาชีพที่เหมาะสมและมีความพร้อมหากไทยต้องการขยายผลการเปิดเสรีทางด้านแรงงานในเออีซีต่อไป มี 7 อาชีพ ได้แก่ 1.ช่างเชื่อมแม็ก คือ การเชื่อมด้วยมือหรือระบบกึ่งอัตโนมัติ 2.ช่างเชื่อมทิก การเชื่อมเหล็กกล้าคาร์บอนหรือสแตนเลส ด้วยมือหรือกึ่งอัตโนมัติ 3.ช่างเชื่อมท่อโพลิเอทิลีนความหนาแน่นสูง(HDPE) 4.ช่างประกอบท่อ การประกอบ ติดตั้งท่อเหล็กกล้าภายใต้มาตรฐานที่กำหนด 5.ช่างไม้ก่อสร้าง 6.พนักงานนวดไทย 7.ผู้ประกอบอาหารไทย
ทั้งนี้ จากการศึกษา อาชีพทางด้านช่างฝีมือต่าง ๆ เป็นอาชีพที่คนไทยถนัดและได้รับการยอมรับในเรื่องฝีมือจากนานาประเทศ เช่น ช่างเชื่อม ช่างประกอบท่อ ช่างไม้ก่อสร้าง เป็นต้น ทำให้มีโอกาสในการเคลื่อนย้ายแรงงานไปทำงานในประเทศสมาชิกอาเซียนที่มีความต้องการอย่างสิงคโปร์ และบรูไน
นอกจากนี้ อาชีพด้านการบริการ แรงงานไทยในด้านนี้มีโอกาสที่จะเคลื่อนย้ายไปทำงานในประเทศมาเลเซียเพิ่มมากขึ้น ทั้งอาชีพ ผู้ประกอบการอาหาร พนักงานบริการในร้านอาหาร เนื่องจากร้านอาหารไทยเป็นที่นิยมในมาเลเซีย ส่วนการนวดแผนไทยที่ประเทศมาเลเซีย รัฐบาลและสมาคมกายภาพบำบัด(Malaysian Society of Complementary Therapist : MSCT) กำหนดให้ผู้ที่จะเข้าไปทำงานในอาชีพนวดแผนไทยต้องผ่านการฝึกอบรมจากประเทศไทยจำนวน 772 ชั่วโมง และผ่านการทดสอบมาตรฐานของไทย ในระดับ 2 จากสถาบันหรือศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน หรือหน่วยงานของกระทรวงแรงงาน จึงเป็นโอกาสสำหรับแรงงานไทย