เชลล์ยังเชื่อมั่นการทำธุรกิจในไทย
เชลล์ยังเชื่อมั่นตลาดประเทศไทย โอกาสในการทำธุรกิจยังดีอยู่ ชี้สถานการณ์การเมืองเป็นสถานการณ์ระยะสั้น
นายทรอย แซ๊ปแมน กรรมการบริหาร ธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยคดีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ว่าสถานการณ์การเมืองเป็นเหตุการณ์ไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เป็นสถานการณ์ระยะสั้น ซึ่งตนเป็นต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยยังเห็นโอกาสดีในการทำธุรกิจในประเทศไทยในอนาคต ทั้งนี้ เชลล์ยังมองว่าประเทศไทยยังคงเป็นตลาดที่ดีอยู่ และมั่นใจในตลาดนี้
ส่วนตลาดน้ำมันเครื่องรวมในประเทศไทยปีนี้ เชลล์คาดว่าจะไม่เติบโต โดยมีความต้องการใช้น้ำมันหล่อลื่นในภาพรวม 680 ล้านลิตร แบ่งเป็นการใช้น้ำมันหล่อลื่นตามมาตรา 7 จำนวน 380 ล้านลิตรต่อปี รวมตลาดอุตสาหกรรมด้วย โดยเป็นยอดการใช้น้ำมันหล่อลื่นจากการขายของผู้ค้าน้ำมัน มาตรา 7 คิดเป็นร้อยละ 55 ของปริมาณความต้องการใช้ทั้งประเทศ ที่เหลือกลุ่มผู้ใช้นอกมาตรา 7 ส่วนเชลล์มีอัตราการเติบโตสูงกว่าตลาดเล็กน้อย
ทั้งนี้ ปีนี้ยังคงตั้งเป้าหมายว่าจะเติบโตกว่าตลาดเล็กน้อยเช่นกัน และปีนี้เชลล์ยังคงตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดน้ำมันหล่อลื่นกลุ่มพรีเมียมมากขึ้น โดยต้องการมีอัตราการเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยของการเติบโตของตลาดผ่านการจัดกิจกรรมทางการตลาดที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตอบสนองความต้องการของตลาด จากปัจจุบันเชลล์มีส่วนแบ่งตลาดน้ำมันหล่อลื่นพรีเมียมร้อยละ 15-20 คาดว่าอีก 2-3 ปี จะเพิ่มเป็นร้อยละ 30 ของตลาดน้ำมันหล่อลื่นพรีเมียมในภาพรวมของไทย.