9 วิธีเซฟเงินค่าประกันภัยรถยนต์แบบสุดคุ้ม

9 วิธีเซฟเงินค่าประกันภัยรถยนต์แบบสุดคุ้ม

9 วิธีเซฟเงินค่าประกันภัยรถยนต์แบบสุดคุ้ม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เรามักหาวิธีที่จะประหยัดเงินต่างๆ นานา ซึ่งรวมถึงค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ที่ต้องจ่ายในแต่ละปีเผื่อเกิดกรณีไม่คาดฝันในการใช้รถ และนี่คือเคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายจากเบี้ยประกันภัยรถยนต์ของคุณ

 

1.เปรียบเทียบก่อนซื้อ

แน่นอนว่าค่าประกันภัยรถยนต์ของแต่ละบริษัทมักมีราคาแตกต่างกัน ก่อนซื้อควรมีการเปรียบเทียบอย่างน้อยๆ 3 บริษัท เริ่มจากชื่อเสียงของบริษัทที่ให้บริการ ช่องทางติดต่อที่สะดวก ประสานงานรวดเร็ว ให้คำปรึกษาแก้ปัญหาให้เราได้ และอัตราเบี้ยประกันภัยต้องเป็นธรรม “เสี่ยงน้อยจ่ายน้อย เสี่ยงมากจ่ายมาก”

 

2.เลือกประเภทความคุ้มครอง

คิดก่อนซื้อว่าความคุ้มครองแบบไหนที่คุณต้องการ เช่น คุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลอื่น คุ้มครองการซ่อมรถคันที่เอาประกันภัย คุ้มครองรถหาย-ไฟไหม้ แล้วดูสภาพแวดล้อมของคุณเอง เช่น รถเก่า ลักษณะนิสัยการขับขี่รวมถึงระยะทางการใช้งาน สิ่งเหล่านี้อาจช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากทีเดียว

 

3.ส่วนลดจากนายประกัน

ช่น ส่วนลดแรกเข้า โดยปกติรถยนต์ที่เคยทำประกันที่บริษัทประกันภัยอื่นมาแล้ว (หากมีเคลม) บริษัทประกันใหม่จะให้ส่วนลดไม่เกิน 20% ส่วนลดจากคอมมิชชั่น เมื่อตัวแทนประกันหรือโบรกเกอร์ต้องการทำยอดบางครั้งก็ให้ส่วนลด 30-40% ซึ่งถ้าผู้เอาประกันภัยได้ส่วนลดนี้ด้วยก็จะเป็นเบี้ยประกันภัยที่ถูกที่สุด

 

4.ประกันกลุ่มถูกกว่า

หากคุณมีรถยนต์ตั้งแต่ 3 คันขึ้นไปที่จดทะเบียนชื่อเดียวกัน การซื้อประกันภัยกลุ่มจะทำให้ได้ส่วนลด 10% นอกจากนี้ บางบริษัทหรือองค์กรขนาดใหญ่จะมีนโยบายทำประกันอยู่แล้ว หากซื้อประกันผ่านบริษัทนายจ้างอาจมีส่วนลดที่ดีก็ได้

 

5.ซ่อมอู่หรือซ่อมศูนย์

ดูจากการใช้รถของคุณว่าจำเป็นหรือไม่ที่ต้องซ่อมศูนย์ หากซ่อมอู่อาจมีเบี้ยประกันที่ต่างกันถึง 10-30% เพราะปัจจุบันอู่ซ่อมหลายแห่งมีมาตรฐานค่อนข้างสูงเพื่อให้ทัดเทียมกับศูนย์ จึงช่วยประหยัดเบี้ยประกันได้

 

6.เพิ่มค่า Deductible เพื่อลดเบี้ย

หากมีประวัติขับขี่ดี การทำประกันภัยรถยนต์แบบมี Deductible หรือกำหนดค่าเสียหายส่วนแรกที่คุณต้องจ่ายเองก็จะประหยัดค่าเบี้ยได้มาก ซึ่งค่าเสียหายส่วนแรกเริ่มที่ 2,000-5,000 บาท เช่น ค่าเบี้ยประกันภัย 20,000 บาท หากระบุค่าเสียหายส่วนแรก 4,000 บาท ค่าเบี้ยประกันภัยจะเหลือ 16,000 บาท กรณีที่เกิดอุบัติเหตุแล้วคุณเป็นฝ่ายผิด คุณจะต้องชดเชยค่าเสียหายตามจริงแต่ไม่เกิน 4,000 บาท ที่เหลือบริษัทประกันภัยเป็นผู้รับผิดชอบ

 

7.ระบุชื่อผู้ขับขี่มีส่วนลด

การประกันภัยรถยนต์แบบระบุชื่อผู้ขับขี่สำหรับรถยนต์นั่ง รถยนต์โดยสารส่วนบุคคล จะประหยัดเบี้ยได้ 5-20% โดยสามารถระบุผู้ขับขี่ได้ไม่เกิน 2 คน (ดูคนอายุน้อยเป็นหลัก)

อายุ 18-24 ปี ลด 5%

อายุ 25-35 ปี ลด 10%

อายุ 36-50 ปี ลด 15%

อายุเกิน 50 ปี ลด 20%

กรณีที่ผู้อื่นนำรถยนต์ไปขับขี่แล้วเกิดเหตุเป็นฝ่ายผิด คุณต้องรับผิดชอบความเสียหายตามจริงแต่ไม่เกิน 6,000 บาท และรับผิดชอบค่าเสียหายต่อรถคู่กรณี 2,000 บาท ส่วนที่เกินนั้นบริษัทประกันภัยจะเป็นผู้รับผิดชอบ

 

8.รักษาประวัติดีมีส่วนลด

ในแต่ละปีที่ทำประกันรถยนต์ไว้ ถ้าไม่เคยได้รับใบสั่งไม่มีเคลมเลยในปีที่ผ่านมา หรือมีเคลมแต่ไม่ได้เป็นฝ่ายผิดก็จะได้รับส่วนลดประวัติดีตามลำดับขั้นในแต่ละปีสูงสุด 50% ของเบี้ยประกันภัยในปีที่ต่ออายุ

ขั้นที่ 1 ขับรถดีในปีแรก รับส่วนลด 20%

ขั้นที่ 2 ขับรถดี 2 ปีติดต่อกัน รับส่วนลด 30%

ขั้นที่ 3 ขับรถดี 3 ปีติดต่อกัน รับส่วนลด 40%

ขั้นที่ 4 ขับรถดีติดต่อกันตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไป รับส่วนลด 50%

แต่หากเมื่อไหร่ที่คุณเป็นฝ่ายผิด ส่วนลดประวัติดีก็จะลดลงทีละขั้น เช่น คุณมีประวัติดีอยู่ที่ 40% และเป็นฝ่ายผิด 1 ครั้ง ส่วนลดก็จะลดเหลือ 30% เพราะถ้ามีประวัติไม่ดีเกี่ยวกับการขับขี่แล้ว ค่าประกันภัยก็จะเพิ่มสูงขึ้นด้วย


9.ระวังเงินสูญเพราะมิจฉาชีพ

มีมิจฉาชีพมากมายที่ปลอมตัวเป็นพนักงานประกันใช้โบรชัวร์จริงๆ มาถ่ายรูปรถ เก็บหลักฐาน แต่ออกหลักฐานปลอมๆ ให้ ฉะนั้นอย่าลืมตรวจสอบใบอนุญาตตัวแทนประกันวินาศภัยหรือนายหน้าประกันวินาศภัย ซึ่งออกโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ทุกครั้ง

 

สายด่วน! สอบถามหรือร้องเรียนเรื่องการทำประกันภัยได้ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โทร. 1186 สมาคมประกันวินาศภัย โทร. 0-2256-6032-8 หรือ บริษัทประกันวินาศภัยที่คุณเป็นลูกค้าอยู่

ขอบคุณข้อมูล http://www.lisaguru.com/wp/blog/smart/v15n09-cash-clever/

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook