ข้อพิพาททะเล"เวียดนาม-จีน"ประท้วงรุนแรง ส่อทำลายเศรษฐกิจ

ข้อพิพาททะเล"เวียดนาม-จีน"ประท้วงรุนแรง ส่อทำลายเศรษฐกิจ

ข้อพิพาททะเล"เวียดนาม-จีน"ประท้วงรุนแรง ส่อทำลายเศรษฐกิจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คอลัมน์ รู้จักอาเซียน

ความเคลื่อนไหวในกรณีพิพาททะเลจีนใต้ระหว่างจีน-เวียดนาม ส่อเค้าความรุนแรงกระทบกระเทือนไม่เพียงแค่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ยังส่งผลถึงด้านเศรษฐกิจของเวียดนามอีกด้วย จากเหตุการณ์ที่จีนนำแท่นขุดเจาะน้ำมันเข้าไปในพื้นที่หมู่เกาะสแปรตลีย์ ส่วนหนึ่งของทะเลจีนใต้

แม้ว่าในกรอบอาเซียนจะมีการหยิบยกเรื่องนี้ มาพูดคุย และมีการออกแถลงการณ์ร่วมในเรื่องดังกล่าวหลังจากการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 24 ร่วมที่กรุงเนย์ปิดอว์ ประเทศเมียนมาร์ 

ทว่าความวุ่นวายในเวียดนาม คู่กรณีโดยตรงกับจีน กลับยังคงดำเนินต่อไปอย่างรุนแรง โดยมีรายงานข่าวว่ามีการเผาโรงงานนักลงทุนต่างชาติในเขตอุตสาหกรรมเวียดนาม สิงคโปร์ ในจังหวัดบิ่นเยือง และอีกที่หนึ่งในจังหวัดด่องไน ทางตอนใต้ของเวียดนาม 

สำนักข่าวรอยเตอร์สถึงกับชี้ว่า เป็นเหตุการณ์ประท้วงที่ร้ายแรงที่สุด ตั้งแต่สงครามบริเวณพรมแดนเมื่อปี 2522 

ผู้ประท้วงร่วมพันด้วยอารมณ์ที่โกรธเกรี้ยวกับการละเมิดอธิปไตยของจีนได้ก่อเหตุการณ์เผาโรงงาน มีจุดประสงค์ที่แน่นอนว่าต้องการทำลายโรงงานที่เป็นของนักลงทุนจีน แต่การเผาโรงงานกลับลุกลามไปยังโรงงานของนักลงทุนชาติอื่นๆ อย่างเกาหลีใต้ ไต้หวัน และญี่ปุ่นอีกด้วย 

ซีเอ็นเอ็น รายงานโดยอ้างบทสัมภาษณ์จาก เจ้าของโรงงานแห่งหนึ่งที่กล่าวถึงเหตุการณ์จลาจลครั้งนี้ว่า มีคนงานจากโรงงานของตนกว่า 600 คนบุกเข้าไปในตึกที่ทำการของโรงงาน และทำลายข้าวของเพียงเล็กน้อย แต่ไม่ได้มีการจุดไฟเผาแต่อย่างใด นอกจากนี้ เจ้าของโรงงานคนเดียวกันกล่าวต่อไปว่า ไม่มีการเข้ามาปฏิบัติการยับยั้งการประท้วงของเจ้าหน้าที่รัฐหรือตำรวจ เวียดนามแต่อย่างใด ซึ่งเหตุการณ์มันเกินเลยกว่าที่เจ้าหน้าที่รัฐจะควบคุมได้ 

สำนัก ข่าวธ่านเนียน สื่อท้องถิ่นของเวียดนามระบุว่า หลังเกิดเหตุความวุ่นวาย ตำรวจเวียดนามสามารถจับกุมผู้ประท้วงเลือดร้อนในจังหวัดบิ่นเยืองได้ 599 คน ส่วนทางด้านจังหวัดด่องไนสามารถจับกุมผู้ประท้วงได้ประมาณ 100 คน 

เหตุที่เกิดขึ้นย่อมกระทบต่อเศรษฐกิจเวียดนามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยในจังหวัดบิ่งเยืองมีบริษัทกว่า 460 แห่งที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรง และโรงงานอีก 15 แห่งต้องกลายเป็นซากหลังผู้ประท้วงจุดไฟเผา โดยคาดว่าจะมีแรงงานเวียดนามจำนวนกว่า 10,000 คนสุ่มเสี่ยงจะตกงาน 

นอกจาก เวียดนามจะขัดแย้งกับจีนแล้ว กระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ยังได้ออกแถลงการณ์ว่า ทางการสิงคโปร์มองเรื่องที่เกิดขึ้นว่ากระทบต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ระหว่างสิงคโปร์กับเวียดนามอย่างรุนแรง พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลเวียดนามปฏิบัติการอย่างจริงจังและทันทีในการบังคับ ใช้กฎหมาย ก่อนสถานการณ์จะเลวร้ายมากยิ่งขึ้น

ส่วนแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศจีนที่เรียกร้องให้เวียดนามยุติการกระทำใดๆ ที่เป็นการแทรกแซงการดำเนินการของบริษัทสัญชาติจีน ซึ่งความรุนแรงส่งผลต่อความสัมพันธ์เวียดนาม-จีน แต่ในแถลงการณ์ยังยืนยันว่าจีนได้นำแท่นขุดเจาะน้ำมันเข้าไปในน่านน้ำของจีนเอง ไม่ได้บุกรุกแต่อย่างใด 

ข้อพิพาททะเลจีนใต้ เป็นสิ่งที่รัฐบาลของประเทศที่เกี่ยวข้องทุกประเทศต้องหยิบยกมาเจรจาอย่าง จริงจังและหาทางออกให้รวดเร็วที่สุด รวมถึงหลีกเลี่ยงการเอาประเด็นข้อพิพาทมาเป็นเรื่องทางการเมือง ซึ่งจะไม่ส่งผล.กระทบเพียงแค่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและระหว่างประชาชน แต่ที่สำคัญคือเรื่องความเชื่อมั่นของนักลงทุนกับมุมมองที่มีแนวโน้มแย่ลง หากรัฐบาลไม่สามารถคุมเรื่อง "ชาตินิยม คลั่งชาติ" มากจนเกินไป

แน่นอนว่าผลจากชาตินิยมมากเกินไปจะทำให้ภาพรวมของเวียดนามดูแย่ลงในสายตานักลงทุนต่างชาติ ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของเวียดนาม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook