"นิวัฒน์ธำรง" เล็งขอกู้งบกลางเพิ่ม 20,000 ล้านบาท จ่ายชาวนา

"นิวัฒน์ธำรง" เล็งขอกู้งบกลางเพิ่ม 20,000 ล้านบาท จ่ายชาวนา

"นิวัฒน์ธำรง" เล็งขอกู้งบกลางเพิ่ม 20,000 ล้านบาท จ่ายชาวนา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันนี้จะมีการหารือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) สำนักงานงบประมาณ กระทรวงการคลัง เพื่อหารือจัดทำรายละเอียดการกู้ยืมเงินงบกลาง 20,000 ล้านบาท สำหรับใช้ในการจ่ายค่าจำนำข้าวให้ชาวนา ซึ่งปัจจุบันยอดเงินคงค้างจ่ายจำนำข้าวประมาณ 90,000 ล้านบาท และจะสรุปเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาสัปดาห์หน้า ก่อนขอความเห็นชอบคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ต่อไป

"คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร กรอบคืนเงินยังเหมือนครั้งแรกโดยการระบายข้าวและคืนภายใน 2 เดือน เพราะครั้งแรกที่ขอยืมสามารถคืนภายในเดือนครึ่ง กระทรวงการคลังและ ธ.ก.ส.ก็หาเงินได้อีก 1-2 หมื่นล้านบาทในเดือนมิถุนายนนี้ โดยยังให้ความสำคัญต่อการระบายข้าวและหาเงินจ่ายชาวนาให้เร็วที่สุด ซึ่งตอนนี้จ่ายชำระค่าจำนำข้าววันละ 4,000 ล้านบาท" นายนิวัฒน์ธำรงกล่าว

นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมาได้อนุมัติขายข้าวสต๊อกรัฐบาลไปอีก 2 แสนตัน เป็นข้าวทุกชนิดรวมถึงข้าวเปียกและข้าวหัก มูลค่ารวมประมาณ 3,000 ล้านบาทให้เอกชนที่เสนอซื้อผ่านการประมูลทั่วไปและเสนอซื้อโดยตรงตามคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังเจรจากับมาเลเซียเพื่อขายข้าวปริมาณ 6 แสนตัน ซึ่งราคาและเงื่อนไขก็ต้องรับได้ ส่วนการส่งมอบจะให้เอกชนดำเนินการไหม เรื่องนี้ยังอยู่การหารือ ผลการเจรจาซื้อขายคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1-2 สัปดาห์ ส่วนการเจรจาจีทูจียังดำเนินอยู่กับประเทศที่แสดงความสนใจซื้อข้าวไทย เช่น อินโดนีเซีย และจีนที่สนใจซื้อข้าวไทยเพิ่มจากไทย และก่อนหน้านี้ที่ได้ลงนามซื้อข้าวปริมาณ 1 ล้านตันไปแล้ว

ปัจจุบันรัฐบาลมีข้าวในสต๊อกที่พร้อมขายรวม 13 ล้านตัน ในจำนวนนี้ต้องส่งมอบให้ผู้ซื้อรวม 4 ล้านตัน และยังคงเหลือ 9 ล้านตัน แบ่งเป็นปลายข้าว 3 ล้านตัน ซึ่งเป็นปริมาณที่ไม่ได้สูงมาก แต่จะยังคงเดินหน้าระบายข้าวต่อไปตามแผน คาดว่าทั้งปีไทยจะส่งออกข้าวประมาณ 8-10 ล้านตัน โดยรัฐบาลจะรักษาระดับราคาข้าวสารไม่ให้ตกต่ำลง และการระบายข้าวแต่ละครั้งต้องได้ตามราคาตลาดที่เหมาะสม หากมีความพยายามกดราคาลงจะยกเลิกการเจรจานั้น ๆ ทันที

ขณะที่ราคาข้าวเปลือก ทางรัฐบาลคงไม่สามารถดำเนินการช่วยเหลืออะไรได้ คงต้องปล่อยไปตามกลไกตลาด โดยราคาข้าวเปลือกในปัจจุบันเฉลี่ยที่ตันละ 6,000-7,000 บาท และรัฐบาลรักษาการขณะนี้ไม่สามารถดำเนินโครงการรับจำนำ หรือโครงการรูปแบบอื่น ๆ ได้ คือ ใช้เงินช่วยเหลือไม่ได้อาจถูกกล่าวหาว่าเป็นความพยายามหาเสียง เพราะจะผิดมาตร 181 ตามรัฐธรรมนูญ

ส่วนผลการตรวจสอบข้าวถุง ทั้งจากกรมการค้าภายใน หรือองค์การคลังสินค้า หรือ อคส. เรื่องนี้ยังไม่ทราบเรื่อง ยังคงอยู่ในคณะทำงานพิจารณาอยู่ 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook