รู้จัก Google AdWords ขุมทรัพย์ธุรกิจ-ที่มาของฟรีจาก "อ.กู"

รู้จัก Google AdWords ขุมทรัพย์ธุรกิจ-ที่มาของฟรีจาก "อ.กู"

รู้จัก Google AdWords ขุมทรัพย์ธุรกิจ-ที่มาของฟรีจาก "อ.กู"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รู้จัก Google AdWords ขุมทรัพย์ธุรกิจ-ที่มาของฟรีจาก "อ.กู"

"ของฟรีไม่มีในโลก" เป็นวลีที่ย้ำเตือนว่าของทุกอย่างมีต้นทุน ซึ่งเป็นจริงไม่ว่าจะอยู่ในยุคที่มนุษย์ยังเขียน-อ่านหนังสือบนกระดาษหรือยุคออนไลน์ ไม่เว้นแม้แต่การให้บริการของเสิร์ชเอ็นจิ้นยักษ์ใหญ่ "กูเกิล" ใครนึกอะไรไม่ออกต้องถามอาจารย์กู(เกิล) ที่ต้องหาแหล่งรายได้มาซัพพอร์ตบริการค้นข้อมูลฟรี ๆ

แหล่งรายได้ที่ว่าคือ "โฆษณาออนไลน์" เมื่อเราคีย์ "คำ" เพื่อค้นหาข้อมูลอะไรบางอย่างแล้วปรากฏผลการค้นหาใน 2-3 อันดับแรกมีกรอบสีเหลืองเล็ก ๆ ติดไว้ว่า "โฆษณา" นั่นล่ะ หรือที่รู้จักกันในชื่อบริการ "Google AdWords" เป็นระบบการโฆษณาผ่านการค้นหาโดยกูเกิลที่มีขึ้นมาตั้งแต่เมื่อ 14 ปีที่แล้ว (ปี 2543)

"AdWords" จะใช้ค่าความสอดคล้องกับผลของคำที่เราเสิร์ชมากที่สุด เช่น เมื่อเสิร์ชคำว่า "รองเท้า" อาจแสดงผลเป็นโฆษณาของรองเท้าขึ้นมา แต่จะไม่มีโฆษณา "รถยนต์" หรืออะไรก็ตามที่ไม่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น

สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการใช้ Google AdWords ทำได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องมีกำลังทรัพย์มหาศาลเหมือนการลงโฆษณาบนสื่อหลักอย่างทีวีหรือสิ่งพิมพ์แต่อย่างใด ขอแค่มีบัญชี Gmail ของ "กูเกิล" กับเว็บไซต์ส่วนตัวก็เริ่มต้นได้แล้วด้วยการเข้าไปที่หน้าโฮมเพจของ "กูเกิล" มองไปที่มุมด้านซ้ายล่างแล้วกดเข้าไปที่เขียนว่า "โฆษณา" จากนั้นเมื่อถึงหน้าควบคุมเป็นหน้าที่ของผู้ใช้ ที่จะเลือกคำที่ท่านอยากให้เพจของท่านโดนค้นเจอให้ตรงที่สุดแล้วใส่จำนวนเงินที่ยอมจ่ายมากที่สุดของวัน และสุดท้ายใส่จำนวนเงินที่มากที่สุดที่ยอมจ่ายสำหรับ 1 คลิก เพียงเท่านี้ทุกอย่างก็เรียบร้อย 

นอกจากการใช้เสิร์ชเอ็นจิ้นของ "กูเกิล" เป็นช่องทางให้ผู้ใช้งานเห็นโฆษณาและเข้าถึงเว็บไซต์ของตนเองแล้ว ผู้ที่ใช้ AdWords ยังได้ประโยชน์จากตารางข้อมูลที่กูเกิลสรุปให้ดูทันที ไม่ว่าจะเป็นเปอร์เซ็นต์การมองเห็นของคนที่เสิร์ชเจอ อัตราที่คนคลิก เฉลี่ยเงินที่เสียไปเมื่อคนคลิก 

ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปวิเคราะห์ต่อยอดได้มากมาย เช่น ถ้ามีคนเห็นโฆษณาผ่าน AdWords มาก แต่กลับไม่มียอดคลิกเข้าเว็บไซต์เลย อาจหมายความได้ว่าผู้โฆษณาต้องหาคำที่ "โดนใจ" หรือควรปรับปรุงแผนอะไรสักอย่างเพื่อให้คน "คลิก" เข้าเว็บไซต์ของตนมากขึ้น 

สำหรับค่าบริการ "เจ้าของธุรกิจ" ที่ลงโฆษณาจะเสียเงินเมื่อมีคนคลิกเข้าเว็บไซต์หรือลิงก์ที่แปะไว้ใน AdWords เท่านั้น โดยระยะเวลาในการโฆษณาจะอยู่ไปจนกระทั่งเงินโฆษณาที่เจ้าของธุรกิจตั้งงบประมาณไว้หมด และผู้ประกอบการสามารถเติมงบประมาณเพิ่มขึ้นได้ผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิต หรือหากต้องการเปลี่ยนแปลงข้อมูลใด ๆ ก็สามารถเปลี่ยนได้ทันทีหลังล็อกอินเข้าระบบออนไลน์

หลายคนอาจสงสัยว่า "กูเกิล" มีระบบในการคัดเลือกโฆษณามาขึ้นอันดับหนึ่งได้อย่างไร "เอมี่ กุลโรจน์ปัญญา" หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรและมวลชนสัมพันธ์ ประเทศอินโดนีเซีย และประเทศกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง "กูเกิล" ให้คำตอบว่า อย่างแรกผู้โฆษณาต้องเลือกคำที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ต้องการให้ผู้ค้นหาหาเจอมากที่สุด ถัดมาคือเว็บไซต์ต้องมีคุณภาพดีพอที่กูเกิลจะเลือกสรร โดยมีปัจจัยมากกว่า 200 ข้อ เช่น เนื้อหาเว็บไซต์หลอกลวงไหม ข้อมูลครบถ้วน สัมพันธ์กับคำที่ตั้งไว้ให้ค้นหาไหม และสุดท้ายคือ ข้อมูลในเว็บไซต์ต้องมีความเคลื่อนไหวใหม่ ๆ ตลอด

"เอมี่" ระบุว่า ผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการใช้บริการ AdWords ได้แก่ การที่ทำให้เว็บไซต์มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าที่ค้นหา สร้างความเท่าเทียมทางธุรกิจ สามารถเข้าถึงทุกคนได้ทุกมุมโลก รวมไปถึงการโฆษณาเสียเงินแล้วเห็นผลวัดได้เป็นรูปธรรม และสามารถปรับเปลี่ยนรายละเอียดต่าง ๆ ตามความต้องการของผู้ใช้ได้ตลอด

สำหรับเทรนด์การค้นหาของคนไทยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กูเกิลพบว่าคนไทยมีการค้นหาที่ละเอียดขึ้นอาจเป็นเพราะมีความต้องการที่จำแนกย่อยมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมไปถึงมีความคุ้นเคยกับการใช้ระบบค้นหา 

ในส่วนของ AdWords ก็มีผู้ใช้บริการทั้งระดับผู้ใช้ธรรมดา ธุรกิจเอสเอ็มอี ไปจนถึงธุรกิจรายใหญ่มากขึ้น ซึ่งขณะนี้ระดับความสามารถของการโฆษณาเริ่มมีไปถึงการใช้ภาพโฆษณาแล้ว และในอนาคตมีแนวโน้มที่จะใช้วีดิโอสำหรับการโฆษณาด้วย 

ด้านผลตอบรับว่า แม้ใครต่อใครจะเกลียดการโฆษณา แต่ AdWords กลับได้รับผลตอบรับที่ดี อาจเพราะผู้ใช้รู้สึกไม่เหมือนการโฆษณา ทั้งเป็นผลการค้นหาที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการมากที่สุด 

เอมี่ ทิ้งท้ายว่า นอกจาก AdWords แล้ว กูเกิลมีบริการที่ช่วยส่งเสริมการทำธุรกิจอื่น ๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น Google Analytics ที่เป็นเครื่องมือในการตรวจสอบปริมาณคนเข้าเว็บไซต์อย่างละเอียด เช่น จำนวนหรือเวลาที่เข้าใช้ หรือ Google Trends เป็นอีกบริการที่ช่วยสำหรับการค้นหาว่าในขณะนี้กำลังมีคำค้นหาอะไรที่คนกำลังค้นหากันมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นปัจจุบัน ในรอบปี หรือตามสถานที่ต่าง ๆ ก็ตาม 

ต่อจากนี้เมื่อเสิร์ช "กูเกิล" แล้วเจอป้ายสีเหลืองที่มีคำว่า "โฆษณา" ติดอยู่เมื่อไร ไม่ต้องสงสัยว่านี่คือขุมทรัพย์ธุรกิจที่ทำให้ "กูเกิล" พัฒนาอะไรต่อมิอะไรมาให้บริการฟรี ๆ สำหรับผู้บริโภคทั่วไป

อัลบั้มภาพ 7 ภาพ

อัลบั้มภาพ 7 ภาพ ของ รู้จัก Google AdWords ขุมทรัพย์ธุรกิจ-ที่มาของฟรีจาก "อ.กู"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook