"ลองสเตย์"ญี่ปุ่นทะลักเชียงใหม่ ทุ่มทุน3พันล.ผุดที่พัก5ดาว-สถานพยาบาลรองรับ

"ลองสเตย์"ญี่ปุ่นทะลักเชียงใหม่ ทุ่มทุน3พันล.ผุดที่พัก5ดาว-สถานพยาบาลรองรับ

"ลองสเตย์"ญี่ปุ่นทะลักเชียงใหม่ ทุ่มทุน3พันล.ผุดที่พัก5ดาว-สถานพยาบาลรองรับ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กลุ่มลองสเตย์ญี่ปุ่นปักหลักเชียงใหม่กว่า 6 พันคน คาดทะลักเข้ามาอีกเพียบ เผยกลางเดือน มิ.ย.นี้เตรียมรับอีก 400 คนจากโตเกียว โอซากา ฟูกูโอกะ จี้รัฐเพิ่มเวลาการพำนักให้นานขึ้นเป็น 3-5 ปี

หวังเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันกับมาเลเซีย ระบุรายได้ต่อปีมากกว่า 1 พันล้านบาท ด้านกลุ่มทุนเชียงใหม่ทุ่มกว่า 3 พันล้าน ผุดที่พัก-คอนโดฯหรู 5 ดาว พร้อมสถานพยาบาลที่อำเภอแม่แตง รองรับชาวญี่ปุ่นวัยเกษียณ

นายมนตรี ปิยากูล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2557 นี้ ได้สนับสนุนกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 (เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และแม่ฮ่องสอน) จัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวพำนักระยะยาว (Long Stay) เพื่อกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดในภาพรวม ซึ่งทุกจังหวัดมีศักยภาพที่โดดเด่นในการรองรับธุรกิจลองสเตย์ โดยมีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายทั้งประเทศตะวันตกและญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวญี่ปุ่นที่นิยมเข้ามาพำนักอาศัยเป็นระยะเวลานาน และเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกปี ซึ่งการเร่งพัฒนาการท่องเที่ยวแบบพำนักระยะยาวจะช่วยเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการในพื้นที่ให้สามารถเข้าใจตลาดการท่องเที่ยวแบบลองสเตย์มากยิ่งขึ้น รวมถึงการเป็นเครือข่ายที่จะช่วยเป็นแรงผลักดันให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันกับตลาดทั้งในและต่างประเทศอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนได้

สำหรับประเทศคู่แข่งขันของไทยคือประเทศมาเลเซีย และมีกลุ่มเป้าหมายเดียวกันคือชาวญี่ปุ่น แต่กฎหมายของมาเลเซียที่เกี่ยวกับธุรกิจ Long Stay มีระยะเวลาการพำนักยาวถึง 10 ปี ขณะที่ไทยกำหนดไว้เพียง 1 ปี ที่ผ่านมาได้มีการผลักดันให้ขยายเวลาจาก 1 ปี เป็น 3 ปี อยู่ระหว่างรอสภาอนุมัติ

ในส่วนของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 จะได้เตรียมแผนพัฒนาด้านมาตรฐานลองสเตย์ให้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น ทั้งด้านที่พัก ความปลอดภัย การอำนวยความสะดวก เพื่อรองรับชาวญี่ปุ่นที่มีแนวโน้มจะมาอยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

ด้านนายเฉลิมชาติ นครังกุล ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า มีการคาดการณ์ว่าในปี 2593 ญี่ปุ่นจะมีผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป 50% ของประชากร ทำให้เหลือวัยทำงานกว่า 30% นอกจากนี้ ปัญหาที่ประเทศญี่ปุ่นพบอีกก็คือ การดูแลผู้สูงอายุความจำเสื่อมที่เพิ่มจาก 2 ล้านกว่าคน เมื่อ 10 ปีก่อน เป็น 5 ล้านคน ซึ่งแนวโน้มในอนาคตจังหวัดเชียงใหม่จะเป็นเป้าหมายสำคัญสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่น หรือจากประเทศทางตะวันตกที่จะมาพำนักเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่มีนโยบายพัฒนาและผลักดันให้จังหวัดเชียงใหม่ เป็น "เมืองลองสเตย์" รองรับผู้สูงอายุนานาชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นวัยเกษียณที่ให้ความสนใจเข้ามาอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มมากขึ้น ด้วยศักยภาพและความพร้อมของจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งด้านระบบคมนาคม ที่พักอาศัย ความปลอดภัย โรงพยาบาล ร้านอาหาร และแหล่งท่องเที่ยว โดยมีแผนพัฒนาในหลายกิจกรรม อาทิ การจัดงานสัมมนานานาชาติ Northern Long Stay Forum 2014 เพื่อให้เห็นถึงทิศทางธุรกิจลองสเตย์, การจัดงาน Retirement Day เพื่อนำธุรกิจต่าง ๆ มาแสดงศักยภาพให้กับกลุ่มลองสเตย์ และการจัดตั้งศูนย์บริการครบวงจรด้านลองสเตย์ หรือ One Stop Service โดยจัดตั้งที่หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้โดยเฉพาะ

"เชียงใหม่มีรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นกลุ่มลองสเตย์ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี หรือเฉลี่ยค่าใช้จ่าย 3 แสนบาทต่อคนต่อปี ซึ่งชาวญี่ปุ่นค่อนข้างมีกำลังซื้อสูง เนื่องจากได้รับสวัสดิการจากรัฐบาลญี่ปุ่น และส่วนใหญ่มีเป้าหมายปลายทางที่จะมาพำนักในเชียงใหม่"

ด้าน ศ.นพ.ณรงค์ นิ่มสกุล ประธานชมรมมิตรภาพไทย-ญี่ปุ่น และนายกกิตติมศักดิ์สมาคมเลเซอร์ทางการแพทย์นานาชาติ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปัจจุบันชาวญี่ปุ่นกลุ่มลองสเตย์ในจังหวัดเชียงใหม่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นทุกปีโดยกลุ่มที่มีการลงทะเบียนอย่างเป็นทางการ คาดว่ามีราว 4,000 คน และที่เข้ามาพักอาศัยอย่างไม่เป็นทางการ คาดว่ามีจำนวนราว 2,000 คน ซึ่งรวมทั้งหมดคาดว่ามีจำนวนไม่ต่ำกว่า 6,000 คน ทำให้เห็นถึงศักยภาพทางธุรกิจที่จะรองรับตลาดกลุ่มนี้ แต่จะต้องมีการขยายระยะเวลาการพำนักให้ยาวขึ้นอาจเป็น 3-5 ปี ซึ่งคู่แข่งในอาเซียนที่สำคัญคือมาเลเซีย ที่กำลังรุกตลาดกลุ่มนี้เช่นกัน

ทั้งนี้ ในวันที่ 16-22 มิ.ย. 2557 จังหวัดเชียงใหม่พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมต้อนรับชาวญี่ปุ่นที่เกษียณอายุ 400 คน ที่จะเดินทางมาดูศักยภาพของเชียงใหม่ ด้านที่พัก โรงพยาบาล สิ่งอำนวยความสะดวก เป็นต้น เพื่อเตรียมเข้ามาพำนักแบบระยะยาว ซึ่งมาจากโตเกียว 200 คน โอซากา 100 คน และฟูกูโอกะ 100 คน โดยจะทดลองเข้ามาอยู่อาศัยเป็นเวลา 1 สัปดาห์

ศ.นพ.ณรงค์กล่าวอีกว่า ตนและกลุ่มนักธุรกิจใน จ.เชียงใหม่ หลายกลุ่มได้ร่วมลงทุนราว 3,000-4,000 ล้านบาท ทำโครงการที่พักอาศัยและสถานพยาบาลแบบครบวงจร พื้นที่ 42 ไร่ ที่อำเภอแม่แตง ห่างจากเมืองเชียงใหม่ราว 39 กิโลเมตร ภายในโครงการประกอบด้วย บ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียมระดับ 5 ดาว สถานพยาบาล คลับเฮาส์ ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร ซึ่งมีเป้าหมายรองรับชาวญี่ปุ่นที่เกษียณอายุได้ 500 คน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องการเข้ามาพำนักระยะยาวและต้องการใช้ชีวิตเพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง ขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2558

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook