'กสิกรไทย' ออกมาตรการช่วยลูกค้าSME
ธนาคารกสิกรไทย ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าSME ที่ขาดสภาพคล่องรุนแรง ด้วยการลดดอกเบี้ยเงินกู้เบิกเกินบัญชีให้ร้อยละ 3 นาน 3 เดือน และ พักชำระหนี้เงินต้นให้นาน 6 เดือน เริ่ม 1 มิ.ย.
นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่าปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาจนส่งผลให้เศรษฐกิจไตรมาสแรกปีนี้ขยายตัวติดลบ การลงทุนชะลอตัว ความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายของประชาชนลดลง ทำให้ธุรกิจSMEมีรายได้ลดลงสูงกว่าร้อยละ 40 และหลายรายยังเสี่ยงขาดสภาพคล่องเพราะขาดรายได้หมุนเวียน โดยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักมี 3 กลุ่ม ได้แก่ ท่องเที่ยว รับเหมาก่อสร้าง ธุรกิจจำหน่ายสินค้า และบริการที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร ซึ่งมีสาเหตุจากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศลดลง รวมทั้งการลงทุนของภาครัฐและเอกชนลดลง
นายพัชร ระบุว่าลูกค้าSMEใน 3 กลุ่มนี้ของธนาคารมีอยู่ประมาณ 19,000 ราย ต้องการความช่วยเหลือทางการเงินเร่งด่วนมากถึง 15,000 ราย มียอดหนี้รวมอยู่ที่ 34,000 ล้านบาท ทำให้ธนาคารต้องออกมาตรการพิเศษช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ด้วยการลดดอกเบี้ยวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี หรือ โอดี ทุกรายทันทีร้อยละ 3 เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 1 มิ.ย. - 31 ส.ค.นี้ และ พักชำระหนี้เงินต้นให้นาน 6 เดือน โดยมาตรการดังกล่าว จะทำให้ลูกค้าทั้ง 3 กลุ่มมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นต่อเดือนประมาณร้อยละ 55 ของภาระหนี้ รวมทั้งยังได้เตรียมวงเงินให้กู้ใหม่อีกในช่วง 3 เดือนนี้ จำนวน 75,000 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนการทำธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม แม้ลูกค้ากลุ่มSMEจะขาดสภาพคล่องแต่ยังไม่มีผลให้หนี้เสียของธนาคารเพิ่มขึ้น และยืนยันว่า มาตรการดังกล่าวไม่กระทบกับกำไรของผู้ถือหุ้น เพราะธนาคารจะบริหารจัดการด้วยการลดค่าใช้จ่ายในด้านอื่นแทน ขณะเดียวกันขณะนี้มีธนาคารของรัฐหลายแห่งเตรียมออกมาตรการช่วยเหลือธุรกิจSME ทั้งเงินสินเชื่อ การพักชำระหนี้ และ การค้ำประกันเสินเชื่อด้วย