"ซูรูฮะ"ขยายสาขารับดีมานด์เออีซี ทุ่มงบฯอัดโปรโมชั่นกระตุ้นหลังเจอพิษเศรษฐกิจ

"ซูรูฮะ"ขยายสาขารับดีมานด์เออีซี ทุ่มงบฯอัดโปรโมชั่นกระตุ้นหลังเจอพิษเศรษฐกิจ

"ซูรูฮะ"ขยายสาขารับดีมานด์เออีซี ทุ่มงบฯอัดโปรโมชั่นกระตุ้นหลังเจอพิษเศรษฐกิจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ซูรูฮะ" เขย่าตลาดร้านค้าปลีกสุขภาพความงาม ผุดสแตนด์อะโลนใหญ่สุดในกรุงเทพฯ พร้อมแผนขยายอีก 20 สาขา รองรับไทยฮับอาเซียน เล็งทุ่มงบฯ 80 ล้านลุยครึ่งปีหลัง อัดหนักโปรโมชั่นกระตุ้นมู้ดจับจ่ายหลัง ศก.ชะลอตัว คาดมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 5% มีกวาดรายได้ปีนี้ 800 ล้านบาท

นาย บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า ธุรกิจร้านค้าปลีกเพื่อสุขภาพและความงามมีศักยภาพในการเติบโตที่น่าสนใจ และซูรูฮะเองก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง โดยปัจจุบันสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้เป็น 3% จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 20,000 ล้านบาท ที่มีการเติบโตกว่า 10% ต่อปี ส่งผลให้สภาพตลาดจะมีการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ประกอบการแบรนด์ใหม่และเก่า ที่ขยายสาขากันมากขึ้น อาทิ วัตสัน, บู๊ทส์, ซีพี เอ็กซ์ต้า, เพรียว บิ๊กซี, โอเกนกิและมัทสึโมโตะคิโยชิ โดยมีการเปิดเกมรุกใส่กันอย่างดุเดือดทำให้กลยุทธ์หลักในการเติบโตสำหรับปีนี้ยังเน้นไปที่การขยายสาขาให้สามารถรอง รับดีมานด์ของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด และวางแนวทางรองรับโอกาสของการเปิดตลาดเออีซีที่ไทยจะก้าวสู่การเป็นฮับของ ตลาดดังกล่าวในอนาคต ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาโอกาส เพื่อเดินหน้าผลักดันให้ไทยเป็นฐานในการทำตลาดของภูมิภาคอาเซียน

นาง สาวเบญจมาศ ต้องประสิทธิ์ กรรมการบริหาร บริษัท ซูรูฮะ (ประเทศไทย) จำกัด ระบุเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนขยายสาขาในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าที่จะเปิดสาขาใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัดรวมกัน 20 สาขา โดยสาขาร่มเกล้าซึ่งเป็นสาขาล่าสุดที่เปิด เป็นโมเดลแบบสแตนด์อะโลนแห่งแรก และเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ มีพื้นที่ 300 ตร.ม. โดยได้ใช้งบประมาณกว่า 15 ล้านบาท ในขณะที่งบฯการขยายสาขาจะแตกต่างกันไปตามพื้นที่และโมเดล เฉลี่ยตั้งแต่ 5-20 ล้านบาท และมีพื้นที่ตั้งแต่ 60-1,000 ตร.ม.

ปัจจุบันซูรูฮะมี สาขาให้บริการทั้งหมด 18 สาขา แบ่งเป็นกรุงเทพฯและปริมณฑล 12 สาขา ต่างจังหวัด 6 สาขา โดยการเลือกโลเกชั่นจะเน้นให้อยู่ในย่านชุมชนและธุรกิจเป็นหลัก แบ่งเป็นร้านที่อยู่ในอาคารสำนักงานคิดเป็นสัดส่วน 20% ศูนย์การค้า 40% พื้นที่ย่านชุมชนที่อยู่อาศัย 40%

ส่วนการรุกตลาดครึ่งปีหลัง บริษัทได้วางงบฯการตลาดไว้ที่ 10% ของยอดขาย หรือประมาณ 80 ล้านบาท เพื่อทำกิจกรรมกระตุ้นการรับรู้ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ให้มีความชัดเจน และตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น อาทิ ช่องทางเฟซบุ๊ก เพื่อตอบโจทย์การตลาดในยุคที่ผู้บริโภคหันมาสนใจไอทีหรือดิจิทัลมากขึ้น โดยเน้นกลยุทธ์หลักไปที่การจัดโปรโมชั่น และแนะนำสินค้าใหม่ ๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายในสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว รวมถึงความอ่อนไหวของสถานการณ์ทางการเมือง

ทั้งนี้ คาดว่ากลยุทธ์และการขยายสาขาดังกล่าวจะทำให้บริษัทจะสามารถมียอดขายสิ้นปี ได้ไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาท และมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มจาก 3% เป็น 5% รวมถึงการมีสาขาครบ 100 สาขาภายในปี 2559 เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับซูรูฮะ ก่อนก้าวสู่การรุกตลาดอาเซียน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook