"สรรพสามิต" จ้องรีดภาษีขายปลีก หวังเพิ่มจัดเก็บ-เป็นธรรมผู้ผลิต
สรรพสามิตชง คสช.ปฏิรูปภาษี ยกเครื่องกฎหมายเก็บภาษีจากราคาขายปลีก จากปัจจุบันอิงราคาหน้าโรงงาน คาดช่วยเพิ่มยอดจัดเก็บภาษีเพิ่มและเป็นธรรมต่อผู้ผลิต/นำเข้า
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า แผนการปฏิรูปภาษีของกรมสรรพสามิตที่เสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณา ตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นั้น กรมเสนอให้รวมกฎหมายของสรรพสามิตที่มีอยู่ 7 ฉบับ ให้เป็นฉบับเดียว คือประมวลรัษฐากรของกรมสรรพสามิต เพื่อให้ทันสมัยขึ้น โดยกฎหมายใหม่จะปรับวิธีการ และขั้นตอนการเก็บภาษี มีบทลงโทษผู้ของผู้เสียภาษีไม่ถูกต้อง และกำหนดฐานราคาการเก็บภาษีให้สอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งจะมีการปรับปรุงการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตใหม่ โดยคิดจากราคาขายปลีกทั้งหมดทุกรายการ จากปัจจุบันอิงราคาหน้าโรงงาน โดยจะทำให้การเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตเพิ่มขึ้น และยังสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ผลิตสินค้าในประเทศและผู้นำเข้า ซึ่งที่ผ่านมามีปัญหาสำแดงราคานำเข้าต่ำ ทำให้เสียภาษีน้อย ขายสินค้าได้ถูกกว่าสินค้าที่ผลิตในประเทศ
"สินค้านำเข้าต้องสำแดงราคานำเข้า (CIF) ตามข้อตกลงแกตต์ ที่ไม่สะท้อนราคาที่แท้จริง ซึ่งการเปลี่ยนเก็บภาษีจากราคาหน้าโรงงานมาเป็นราคาปลีก จะทำให้การเก็บภาษีสรรพสามิตที่นำเข้าไม่ต่ำกว่าเป็นจริง และไม่ผิดข้อตกลงการค้าโลก (WTO) เพราะการเก็บภาษีนำเข้าของกรมศุลกากรยังเป็นไปตามราคา CIF แต่การเก็บภาษีสรรพสามิตจะเก็บจากราคาขายปลีก" นายสมชายกล่าว
นายสมชายกล่าวว่า สำหรับการเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตยังแบ่งสินค้าเป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย กลุ่มสินค้าบาป และกลุ่มสินค้าสิ่งแวดล้อม ส่วนอัตราเก็บเท่าไหร่ต้องหารือกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ก่อน สำหรับการเก็บภาษี 8 เดือนแรก ปีงบ 2557 ต่ำกว่าเป้า 2 หมื่นล้านบาท คาดว่าทั้งปีจะเก็บภาษีได้ 4 แสนล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้า 3 หมื่นล้านบาท แต่หากรวมภาษีน้ำมัน ที่ไม่สามารถปรับขึ้นได้ ก็จะทำให้การเก็บภาษีต่ำกว่าเป้า 6 หมื่นล้านบาท ส่วนปี 2558 ตั้งเป้าหมายจัดเก็บ 4.3 แสนล้านบาท ขยายตัวประมาณ 5% ไม่รวมภาษีดีเซล