ปปง.แจ้งเตือนสถาบันการเงิน 104 แห่งรายงานธุรกรรมเสี่ยงพนันบอล

ปปง.แจ้งเตือนสถาบันการเงิน 104 แห่งรายงานธุรกรรมเสี่ยงพนันบอล

ปปง.แจ้งเตือนสถาบันการเงิน 104 แห่งรายงานธุรกรรมเสี่ยงพนันบอล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปปง. ส่งหนังสือแจ้งเตือนสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน 104 แห่ง รายงานธุรกรรมที่เสี่ยงกับการพนันบอล และยุติความสัมพันธ์กับเว็บพนัน ระบุเป็นบัญชีที่มีความเสี่ยงผิดกฎหมายฟอกเงิน

พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ปปง. ได้รับการประสานจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เพื่อปราบปรามจับกุมเว็บพนันบอล โดยเฉพาะช่วงฟุตบอลโลก ซึ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีนโยบายในการเอาผิดอย่างเข้มข้น มีการตรวจสอบกว่า 10 เว็บพนัน พบรายชื่อธนาคารไทยใหญ่ๆ หลายแห่งถูกใช้เป็นบัญชีโอนเงินพนัน ปปง. ได้ทำหนังสือแจ้งเตือนธนาคารที่ปรากฏชื่อในเว็บพนันให้เร่งยุติความสัมพันธ์กับเว็บพนันดังกล่าว เพราะถือเป็นบัญชีที่มีความเสี่ยงผิดกฎหมายฟอกเงิน ซึ่งกฎหมายใหม่ของ ปปง. กำหนดให้การเปิดบัญชีต้องมีการแสดงตนลูกค้าก่อน และธนาคารต้องรู้ความเคลื่อนไหวในการนำบัญชีไปใช้

ทั้งนี้ ในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. จะเป็นประธานประชุมผู้บริหารสถาบันการเงิน 36 แห่ง เพื่อขอความร่วมมือให้ร่วมกันตรวจสอบบัญชีที่มีการเคลื่อนไหวธุรกรรมผิดปกติ และนำไปใช้ในธุรกิจผิดกฎหมาย

"หากเราเปิดเว็บไซต์พนันบอลจะเห็นได้ว่ามีบัญชีธนาคารหรือสถาบันการเงินปรากฏให้ลูกค้าโอนเงินพนันเข้าไป ปปง. ได้มีหนังสือเตือนไปถึงธนาคารที่มีชื่อหรือบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ให้บริการในเว็บพนันให้ปิดบัญชี หากไม่ดำเนินการ และเมื่อตำรวจจับกุม พบมีการใช้บัตรเติมเงิน หรือใช้บัญชีสถาบันการเงินใดเป็นเครื่องมือแทงพนันบอล ปปง. จะดำเนินการทางกฎหมาย และปรับสถาบันการเงินนั้นทันที 500,000 บาทต่อการให้บริการแต่ละครั้ง" พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวและว่า การปราบปรามพนันบอลครั้งนี้ ปปง. มีกฎกระทรวงการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า พ.ศ. 2556 ซึ่งเป็นกฎหมายใหม่ที่สถาบันการเงินต้องปฏิบัติตาม จึงเชื่อว่าจะช่วยลดการใช้สถาบันการเงินเป็นเครื่องมือทำธุรกิจผิดกฎหมาย และเชื่อว่าพนันบอลครั้งนี้จะลดน้อยลง นอกจากนี้ยังได้มีหนังสือแจ้งเตือนสถาบันการเงินเพิ่มเติมเป็น 104 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคาร 36 แห่ง ผู้ให้บริการบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน 8 แห่ง ผู้ให้บริการบัตรเครดิตที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน 10 แห่ง และผู้ประกอบอาชีพชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ 50 แห่ง จับตาความเคลื่อนไหวของบัญชีหรือการทำธุรกรรมการเงินที่ผิดปกติ และรายงานให้ ปปง. ทราบ

เลขาธิการ ปปง. กล่าวอีกว่า สถิติข้อมูลของ ปปง. ยังพบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารที่น่าเชื่อว่าอาจนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำผิดฐานฟอกเงิน ทั้งเรื่องยาเสพติด การฉ้อโกงประชาชน การพนัน มากถึงกว่า 587 บัญชี ปปง. จึงใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2552 มาตรา 48 วรรค 2 อายัดบัญชีทั้งหมดมิให้นำไปใช้เพื่อประโยชน์ในการทำความผิดและจะดำเนินคดีอาญาฐานฟอกเงินกับผู้จ้างให้เปิดบัญชี และผู้รับจ้างเปิดบัญชี ซึ่งจะร่วมความผิดฐานฟอกเงินมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เลขาธิการ ปปง. กล่าวฝากประชาชนอย่าหลงเชื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรหลอกลวงให้โอนเงิน ล่าสุดพบมีขบวนการหลอกเป็นทหารเปิดเพลงปลุกใจให้เชื่อถือ เพื่อให้เหยื่อโอนเงินให้ หากประชาชนพบเหตุการณ์ดังกล่าวขอให้รีบติดต่อมายัง ปปง. สายด่วน 1710 เพื่อสกัดกั้นบัญชีปลายทางที่เหยื่อโอนเงินไป และนำเงินที่ถูกหลอกโอนกลับคืนได้ทัน ทั้งนี้ ในปลายเดือน ปปง. จะประกาศรายชื่อและเปิดเผยโฉมหน้าของบัญชีที่รับจ้างเปิดให้ขบวนการผิดกฎหมายนำไปใช้ เพื่อให้เหยื่อหรือเจ้าทุกข์ในกรณีต่างๆ ได้แจ้งความร้องทุกข์ ดังนั้น หากผู้ใดรู้ตัวว่าได้กระทำความผิดรับจ้างเปิดบัญชีให้กลุ่มมิจฉาชีพขอให้รีบปิดบัญชีทันที เพราะต่อจากนี้ ปปง. จะเอาเผิดอย่างถึงที่สุดกับกลุ่มรับจ้างเปิดบัญชีแลกกับเงินเพียงไม่กี่พันบาท ให้กลุ่มมิจฉาชีพใช้ไปหลอกผู้อื่นให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook