ธอส.เล็งก๊อกสองแพ็กเกจสินเชื่อ หนุนกู้บ้านหลังแรก1.5-2ล้าน ชง2ทางเลือกดบ.3%5ปี-0%3ปี

ธอส.เล็งก๊อกสองแพ็กเกจสินเชื่อ หนุนกู้บ้านหลังแรก1.5-2ล้าน ชง2ทางเลือกดบ.3%5ปี-0%3ปี

ธอส.เล็งก๊อกสองแพ็กเกจสินเชื่อ หนุนกู้บ้านหลังแรก1.5-2ล้าน ชง2ทางเลือกดบ.3%5ปี-0%3ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ธอส.จ่อ เข็นแพ็กเกจสินเชื่อบ้านลอต 2 ให้บอร์ดพิจารณา เน้นปล่อยกู้ซื้อบ้านใหม่ราคาไม่เกิน 1.5-2 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอีกระลอก เตรียม 2 ทางเลือกอัตราซอฟต์โลนเดิมดอกเบี้ยคงที่ 3% 5 ปี หรือสินเชื่อบ้านหลังแรก 0% 3 ปี ต้องรอหารือ คสช.ช่วยรับภาระต้นทุนดอกเบี้ยบางส่วน สมาคมอาคารชุดไทยเห็นด้วยหากมีสินเชื่อลอตใหม่ให้เน้นช่วยผู้ซื้อบ้านหลัง แรก ขอเพดานราคาไม่เกิน 2 ล้านบาทให้คนกรุงรับอานิสงส์

ผู้สื่อ ข่าวรายงานว่า หลังจากเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้ขานรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วนของคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ (คสช.) โดยเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้ออกแพ็กเกจโครงการ "สินเชื่อบ้าน ธอส.เพิ่มสุข" วงเงิน 5 พันล้านบาท สำหรับลูกค้าเก่าที่อยู่ระหว่างผ่อนสินเชื่อกับ ธอส.และมีประวัติผ่อนชำระดีอย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 36 เดือน มีสิทธิ์ขอกู้เพิ่มเพื่อซื้อวัสดุตกแต่งหรือสิ่งอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับ บ้าน คิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษคงที่ 3 ปีแรก 3.99% ปีที่ 4 ดอกเบี้ย 4.975 และปีที่ 5 เป็นต้นไปคิดอัตรา MRR หรืออัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 6.975% โดยให้วงเงินกู้สูงสุดไม่เกินรายละ 1.5 ล้านบาท และใช้สินทรัพย์ที่จดจำนองกับธนาคารเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน

ล่า สุด ธอส.อยู่ระหว่างติดตามความคืบหน้าเพื่อประเมินผลตอบรับ โดยหลังจากนี้หากภาวะเศรษฐกิจยังชะลอตัว ทางคณะกรรมการธนาคารเตรียมเสนอที่ประชุมพิจารณาออกแพ็กเกจสินเชื่อที่อยู่ อาศัยอัตราดอกเบี้ยต่ำสำหรับผู้กู้ซื้อบ้านใหม่เพื่อช่วยกระตุ้นการซื้อที่ อยู่อาศัยในช่วงครึ่งปีหลังอีกรอบ

 

 

เตรียมดันสินเชื่อบ้านก๊อกสอง

แหล่ง ข่าวระดับผู้บริหารจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้คณะกรรมการ (บอร์ด) ธอส.บางท่านมีแนวคิดจะนำเสนอที่ประชุมพิจารณาออกแพ็กเกจโครงการสินเชื่อที่ อยู่อาศัยดอกเบี้ยต่ำเพิ่มเติม แต่ครั้งนี้จะให้กับผู้ซื้อบ้านใหม่เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอีกระลอก แนวโน้มจะเน้นช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและปานกลางที่ซื้อบ้านราคาไม่เกิน 1.5-2 ล้านบาท โดยจะขอรอดูผลตอบรับจากสินเชื่อบ้าน ธอส.เพิ่มสุขที่ให้ลูกค้ากู้เพิ่มสูงสุดไม่เกินรายละ 1.5 ล้านบาทด้วย

ส่วน อัตราดอกเบี้ยเบื้องต้นยังไม่มีข้อมูล แต่ความเป็นไปได้ขณะนี้อาจยึดแนวทางที่เคยทำมาก่อน เช่น แพ็กเกจสินเชื่อซอฟต์โลนสำหรับผู้ประสบภัยน้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปี 2554 ซึ่ง ธอส.เคยให้อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% 5 ปีและหมดลงภายในระยะเวลาไม่นาน , สินเชื่อผู้ซื้อบ้านหลังแรกอัตราดอกเบี้ย 0% 3 ปี ฯลฯ อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีก 1-2 เดือนจะได้ข้อสรุป เพราะขณะนี้ยังมีบอร์ด ธอส.ว่างอยู่ 1 ตำแหน่งต้องรอนโยบายจาก คสช.ว่าจะแต่งตั้งใคร

"กระบวน การหลังจากนี้ จะต้องรอการแต่งตั้งบอร์ดใหม่ที่ว่างอยู่ 1 ตำแหน่งก่อน จากนั้นจะนำเรื่องแพ็กเกจดอกเบี้ยเสนอในที่ประชุมเพื่อพิจารณา ซึ่งกรณีที่เลือกใช้สินเชื่อดอกเบี้ยคงที่ 3% 5 ปี หรือสินเชื่อผู้ ซื้อบ้านหลังแรกดอกเบี้ย 0% 3 ปี ธอส.จะต้องหารือกับ คสช.ช่วยอุดหนุนภาระดอกเบี้ยบางส่วนด้วย เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวถือว่าขาดทุน"

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ปีนี้ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ 1.3 แสนล้านบาท โดยช่วงเวลาที่เหลืออีกกว่า 6 เดือน มีเป้าสินเชื่อที่จะต้องปล่อยใหม่อีก 6.8-7 หมื่นล้านบาท ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่จะมีแพ็กเกจสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับผู้ซื้อ บ้านใหม่ออกมาอีกรอบเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมากู้ซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่ม ขึ้น

ทั้งนี้ เมื่อ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา เดิมมีกระแสข่าวว่า ธอส.จะออกแพ็กเกจสินเชื่อที่อยู่อาศัยดอกเบี้ยต่ำสำหรับผู้ซื้อบ้านใหม่ ตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของ คสช. แต่การออกสินเชื่อบ้าน ธอส.เพิ่มสุขให้ลูกค้าเดิมกู้เพิ่ม เพราะต้องการขานรับนโยบายทันที โดยแพ็กเกจสินเชื่อดังกล่าวเป็นโครงการที่ ธอส.เตรียมแผนล่วงหน้ามาบ้างแล้ว คงเหลือขั้นตอนการสรุปอัตราดอกเบี้ย เมื่อได้รับนโยบายจาก คสช.จึงรีบดำเนินการได้ข้อสรุปอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก 3.99% ซึ่งถูกกว่าอัตราที่ให้ปกติเกือบ 1%

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังเจ้า หน้าที่ฝ่ายสินเชื่อ ธอส.แห่งหนึ่ง พบว่าเกณฑ์การปล่อยกู้สินเชื่อบ้าน ธอส.เพิ่มสุขให้กับลูกค้าเดิม จะพิจารณาภาระหนี้คงเหลือ เช่น เดิมมียอดขอสินเชื่อกับธนาคาร 2 ล้านบาท ปัจจุบันมีภาระหนี้คงเหลือ 1 ล้านบาท ก็จะกู้เพิ่มสูงสุดได้อีกไม่เกิน 1 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จะต้องนำฐานรายได้ประจำต่อเดือนมาคำนวณความสามารถการกู้เพิ่มด้วย

เสนอช่วยบ้านหลังแรก

นาย ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผยว่า หาก ธอส.จะออกมาตรการช่วยผู้ซื้อบ้าน-คอนโดมิเนียมลอตสองถือเป็นเรื่องดี โดยเสนอให้ช่วยเหลือผู้ซื้อบ้านหรือคอนโดฯหลังแรก แต่เมื่อมีแนวคิดแล้วอยากให้มีสินเชื่อออกมาอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้ลูกค้าชะลอการซื้อหรือโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการสูญเสียโอกาสการขายและโอน

อย่างไรก็ตาม มีข้อเสนอว่าหาก ธอส.มีเงื่อนไขขอสินเชื่อสำหรับบ้านราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท เชื่อว่าโครงการบ้านจัดสรร-คอนโดฯในพื้นที่กรุงเทพฯจะได้รับอานิสงส์ไม่มาก เพราะปัจจุบันแทบไม่มีทาวน์เฮาส์ราคาต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท ส่วนคอนโดฯยังพอมีบ้าง แต่ส่วนใหญ่ขยับออกไปอยู่ในทำเลในพื้นที่รอบนอกหรือรอยต่อชานเมือง เนื่องจากที่ดินในเมืองราคาแพงจนทำทาวน์เฮาส์หรือคอนโดฯราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาทได้ยากแล้ว จึงอยากเสนอให้กำหนดเพดานราคาบ้านไว้ไม่เกิน 2 ล้านบาท

สต๊อกบ้าน 1.5 ล้านไม่หวือหวา

ผู้ สื่อข่าวสำรวจสต๊อกบ้าน-คอนโดฯสร้างเสร็จรอขายและแบ็กล็อกหรือยอดขายรอ โอนราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาทภายในปีนี้ของบริษัทพัฒนาที่ดินบางรายพบว่ามีมูลค่าไม่สูงมากนัก อาทิ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตทมีสต๊อกและแบ็กล็อกเฉพาะทาวน์เฮาส์แบรนด์บ้านพฤกษาประมาณ 1.5 พันล้านบาท, บมจ.ศุภาลัยมีสต๊อกคอนโดฯซิตี้โฮมศรีนครินทร์และทาวน์เฮาส์โนโววิลล์รอโอน และขายประมาณ 1 พันล้านบาท, บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ประมาณ 400 ล้านบาท คือโครงการคอนโดฯเดอะทรัสต์, บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 1-2 พันล้านบาท คือคอนโดฯแบรนด์ไอคอนโด ฯลฯ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook