ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น5.27จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (16 มิ.ย.) ที่ 16,781.01 จุด เพิ่มขึ้น 5.27 จุด หรือ +0.03% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,321.11 จุด เพิ่มขึ้น 10.46 จุด หรือ +0.24% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,937.78 จุด เพิ่มขึ้น 1.62 จุด หรือ +0.08% เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาด อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในอิรัก ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กรายงานว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนมิ.ย.ยังคงปรับตัวขึ้นแตะ 19.28 หลังจากพุ่งขึ้นสู่ระดับ 19.01 ในเดือนพ.ค. ซึ่งแสดงถึงกิจกรรมภาคการผลิตในนิวยอร์กที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง ขณะเดียวกันเฟดรายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ปรับตัวขึ้น 0.6% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 79.1% นับเป็นสัญญาณล่าสุดว่าภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐมีการฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง หลังจากปรับตัวย่ำแย่จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นรุนแรง นอกจากนี้ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐ เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านสหรัฐในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 4 จุด แตะ 49 จากระดับ 45 ในเดือนพ.ค. โดยเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในปีนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐกำลังมีเสถียรภาพ หลังเผชิญสภาพอากาศที่เลวร้ายในช่วงต้นปี อย่างไรก็ตาม ตลาดปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัดเพราะได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในอิรัก โดยมีรายงานว่ารมว.กลาโหมสหรัฐได้สั่งการให้เรือ USS Mesa Verde ซึ่งเป็นเรือรบสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกของสหรัฐ เดินทางไปยังอ่าวเปอร์เซีย และยังได้เพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยที่สถานทูตสหรัฐในกรุงแบกแดด และได้อพยพเจ้าหน้าที่บางส่วน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบหลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้ลงจาก 2.8% สู่ระดับ 2% อันเนื่องมาจากเศรษฐกิจที่อ่อนแรงในช่วงไตรมาสแรก แต่ยังคงคาดการณ์สำหรับปี 2558 ไว้ที่ 3%