มทบ.11ค้านขึ้นค่า TAXIกระทบปชช.จ่อฟันค่าโดยสารแพง

มทบ.11ค้านขึ้นค่า TAXIกระทบปชช.จ่อฟันค่าโดยสารแพง

มทบ.11ค้านขึ้นค่า TAXIกระทบปชช.จ่อฟันค่าโดยสารแพง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

'พล.ต.นิรันดร' ลงพื้นที่รับทราบปัญหาแท็กซี่ เพื่อจัดระเบียบใหม่อย่างเด็ดขาด ย้ำทำบนพื้นฐานความถูกต้องเป็นธรรม ปัดข้อเสนอแท็กซี่ขอขึ้นราคา ชี้ไม่เหมาะสม กระทบกับประชาชน

พล.ต.นิรันดร สมุทรสาคร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 ในฐานะผู้กำกับดูแลการจัดระเบียบรถบริการสาธารณะ ในส่วนของแท็กซี่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการให้บริการของรถแท็กซี่ที่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต พร้อมทั้งพบปะพูดคุยกับผู้บริหารบริษัท ขนส่ง จำกัด เพื่อรับทราบปัญหาต่อการจัดระเบียบรถบริการสาธารณะ โดยเฉพาะรถแท็กซี่ ที่มีปัญหาถูกร้องเรียนเรื่องการจอดแช่หลังเข้ามาส่งผู้โดยสารขาเข้า เป็นการเข้ามาจัดระเบียบตามนโยบายของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดแต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ทั้งในส่วนของผู้ใช้บริการคนขับ และผู้ประกอบการให้เช่ารถ

ทั้งนี้ จากการพูดคุยและรับทราบปัญหาของคนขับแท็กซี่ในห้วงที่ผ่านมา ก็พบว่าสาเหตุของการเกิดปัญหาดังกล่าว เกิดจากสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และค่าครองชีพสูงขึ้นและคนขับแท็กซี่จึงต้องจอดแช่ และเลือกรับผู้โดยสารจนเป็นที่มาของปัญหาในปัจจุบัน

 

ผบ.มทบ.11 ปัดข้อเสนอแท็กซี่ขอขึ้นราคา

พล.ต.นิรันดร สมุทรสาคร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 ในฐานะผู้กำกับดูแลการจัดระเบียบรถบริการสาธารณะในส่วนของแท็กซี่ ได้กล่าวถึงการขอปรับราคามิเตอร์ตามที่คนขับแท็กซี่ได้เสนอมา ว่า ยังไม่เหมาะสม เพราะจะกระทบกับประชาชนผู้ใช้บริการ จึงขอให้ชะลอไปก่อน แต่เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมก็จะมีการเสนอข้อมูลต่อ คสช. เพื่อให้พิจารณามาตรการเยียวยาของคนขับรถแท็กซี่ ซึ่งเบื้องต้นทาง บขส. ก็ให้ความร่วมมือและงดเก็บค่าบริการกับรถแท็กซี่ที่เข้ามารับผู้โดยสารภายในสถานีขนส่งหมอชิต

ขณะที่ ในวันที่ 24 มิถุนายน เวลา 10.00 น.จะมีการเรียกตัวแทนผู้ประกอบการที่เป็นอู่เช่ารถ หรือสหกรณ์ต่าง ๆ เข้ามาพูดคุย ภายในมณฑลทหารบกที่ 11 เพื่อรับทราบปัญหาและแนวทางการจัดระเบียบรถบริการสาธารณะในส่วนของแท็กซี่ให้สมบูรณ์ โดยจะเน้นให้ความเป็นธรรมแก่ทุกกลุ่ม

ส่วนการดำเนินการกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลนั้น ได้มีการดำเนินการและกวดขันเป็นพิเศษ โดยหากพบมีการกระทำความผิดและเป็นเจ้าหน้าที่รัฐด้วยนั้น จะต้องดำเนินการในขั้นเด็ดขาด ซึ่งการดำเนินทั้งหมดคาดว่า จะแล้วเสร็จเป็นรูปธรรมภายใน 2-3 เดือน โดยจะมีการประเมินผลอย่างต่อเนื่อง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook