"มาม่า"รับพิษการเมืองแรงทำยอดขายต่ำสุดรอบเกือบ 10 ปี

"มาม่า"รับพิษการเมืองแรงทำยอดขายต่ำสุดรอบเกือบ 10 ปี

"มาม่า"รับพิษการเมืองแรงทำยอดขายต่ำสุดรอบเกือบ 10 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายสุรชัย รัตนเจียเตริฐ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจที่ผ่านมาทำให้ยอดขายมาม่าในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2557 เติบโตเพียง 12% ส่งผลให้รายได้ทั้งปีจะโตเพียง 5% หรือราว 1 หมื่นล้านบาท ถือว่าต่ำที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี ส่วนประเด็นที่กระทรวงพาณิชย์สั่งตรึงราคาบะหมี่สำเร็จรูปไปจนถึงสิ้นปี 2557 นั้นบริษัทไม่ได้รับผลกระทบ เพราะอัตราการบริโภคบะหมี่สำเร็จรูปคนไทยอยู่ในระดับสูง

นายสุรชัยกล่าวถึงธุรกิจในต่างประเทศทั้งที่ตั้งโรงงานเพื่อผลิตในต่างประเทศและการส่งออกว่า ปีนี้คาดว่าจะมีรายได้รวม 1,000 ล้านบาท คิดเป็น 10% ของรายได้ และปี 2560 ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้เป็น 30% ของรายได้รวม ซึ่งมีแผนจะลงทุนสร้างโรงงาน ทั้งเป็นการร่วมหุ้นกับท้องถิ่น และซื้อกิจการในต่างประเทศ วงเงินลงทุนไม่เกิน 500 ล้านบาท

"ปัจจุบันบริษัทผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้ราว 6 ล้านซองต่อวัน มีส่วนแบ่งตลาด 50% ในปีนี้บริษัทอาจมีการควบรวมกิจการด้านธุรกิจอาหารที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัท ส่วนแผนงานในอนาคตจะไม่เน้นเพิ่มศักยภาพการผลิตในประเทศแล้ว แต่จะลงทุนในต่างประเทศแทน เช่นปลายปี 2557 จะเริ่มก่อสร้างลงทุนหรือถือหุ้นโรงงานในประเทศแถบแอฟริกา และมองตลาดตะวันออกกลางไว้ด้วย จากที่ผ่านมาลงทุนสร้างโรงงานในประเทศฮังการีเพื่อใช้เป็นฐานส่งสินค้าไปขายในยุโรป ขณะที่โรงงานที่บังกลาเทศเตรียมใช้เป็นฐานส่งออกไปยังอินเดีย" นายสุรชัยกล่าว

นางจันทรา บูรณฤกษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากสถานการณ์การเมืองดีขึ้น ได้ปรับเป้ารายได้ปี 2557 เพิ่มเป็น 7% จากเดิมต้นปีประมาณไว้เพียง 5%

นางธีรดา อําพันวงษ์ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอซีซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจในอีก 3 ปี บริษัทเตรียมเปิดช่องทางการจำหน่ายเครื่องสำอางใหม่ทั้งการขายในออนไลน์และการขายตรง เตรียมผลักดันแบรนด์เคเอ็มเอออกสู่ตลาดเออีซี (ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน) เพิ่มสัดส่วนรายได้ต่างประเทศเป็น 10%

นายวิโรจน์ ธีรวัฒน์วาที กรรมการผู้จัดการบริษัท สหโคเจน (ชลบุรี) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิต 200 เมกะวัตต์ต่อวัน ผลิตเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมในเครือ 175 เมกะวัตต์ต่อวัน ส่วนที่เหลือขายให้กับผู้ที่สนใจ ในอนาคตคาดว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อขายให้ภายนอกเครือบริษัท ประมาณ 30% ซึ่งการที่ภาครัฐแก้ไขปัญหาการออกใบอนุญาตต่างๆ จะเป็นผลดีต่อการขยายกิจการบริษัท

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook