ศุลกากร เตือนอย่าตื่น ประกาศห้ามหิ้วของเกินหมื่น/ครั้ง ยืนยันใช้มานานแล้ว
นายอวยชัย กุลทิพย์มนตรี ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวถึงป้ายแจ้งผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยสามารถนำของใช้ส่วนตัวเข้ามาได้ไม่เกินครั้งละ 10,000 บาท ที่มีกระแสในโลกโซเชียลมีเดีย ว่า ประกาศนี้มีมานานแลัว แต่ป้ายใหม่ที่อธิบายเป็นภาษาคำพูดเพื่อให้ผู้ที่สงสัยเกิดความเข้าใจ โดยเพิ่งเริ่มติดป้ายในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ไม่ใช่เมื่อวาน (1 กรกฎาคม) อย่างที่เป็นข่าวตามโซเชียลมีเดียแต่อย่างใด ซึ่งอธิบดีกรมศุลกากรก็มีความเป็นห่วงว่าประชาชนอาจเกิดความแตกตื่นจึงให้ปลดป้ายนั้นลง แต่กระบวนการกฎหมายยังต้องดำเนินการต่อ และผู้โดยสารที่เดินทางเข้าออกอย่ากังวล เนื่องจากเป็นกฎหมายที่ทุกประเทศต้องปฏิบัติเหมือนกัน
ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น นายอวยชัย ระบุว่า เป็นไปตามมาตรฐานเดิมมาโดยตลอดไม่ได้เพิ่มขึ้นในช่วงนี้แต่อย่างใด ซึ่งการตรวจสอบนั้นจะใช้หลักบริหารความเสี่ยง การข่าวที่ได้รับ แหล่งที่มาโดยเฉพาะประเทศที่จำหน่ายสินค้าแบรนด์เนม ท่าทางลักษณะของผู้โดยสาร ซึ่งมีขั้นตอนในการตรวจสอบ และหากเดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงเรื่องยาเสพติดจะติดตามเป็นพิเศษ รวมทั้งจะมีเจ้าหน้าคอยติดตามการค้าสินค้าพรีออเดอร์จากโซเชียลมีเดียด้วย
ทั้งนี้การตรวจสอบจะแบ่งผู้โดยสารออกเป็น 2 ประเภท คือผู้ที่สุจริตจะผ่านเข้าทางช่องสีเขียว สำหรับผู้ไม่มีสิ่งของต้องสำแดง และผู้ที่ทุจริตซึ่งทางศุลกากรจะให้โอกาสเดินเข้าช่องแดง เพื่อขอชำระภาษีกับเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ซึ่งจะออกภาษีให้ทันที แต่ในช่องเขียวก็มีการสุ่มการตรวจสอบเช่นกัน และหากพบก็จะดำเนินการให้จ่ายภาษีหรือยึดเป็นของหลวง