สหรัฐเจ๋งยึดแชมป์ประเทศผลิตน้ำมันมากที่สุดของโลกเป็น"ปีที่สอง"แซงหน้าซาอุฯ-รัสเซีย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 7 ก.ค.สหรัฐยังคงรักษาสถานภาพประเทศผู้ผลิตน้ำมันได้มากที่สุดของโลกในปีนี้ ได้เป็นปีที่สอง หลังจากแซงหน้าซาอุดิอาระเบีย และรัสเซีย กลายเป็นชาติยักษ์ใหญ่ของการผลิตน้ำมัน จากการสกัดน้ำมันจากหินดินดาน หรือ"หินน้ำมัน" โดยปีที่ผ่านมา สหรัฐสามารถการผลิตน้ำมันดังกล่าวได้อย่างมาก โดยเฉพาะการสกัดน้ำมันจากหินดินดาน ที่กำลังจะกลายเป็นปัจจัยหลักที่จะช่วยส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะเดียวกัน ในฐานะประเทศผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ของโลก สหรัฐยังได้นำเข้าน้ำมันดิบราว 7.5 บาเรลต่อวัน ในช่วงเดือนมี.ค.
ขณะที่หน่วยงานไอเออีประเมินว่า และประเมินกันว่า ยอดการผลิตน้ำมันของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 13.1 ล้านดอลลาร์ต่อบาเรล ในปี 2019 นักวิเคราะห์ระบุว่า ปัจจุบันการสกัดน้ำมันจากหินดินดานของสหรัฐมีปริมาณมากว่าการผลิตน้ำมันของอิรัก และยังไม่ได้มีผลกระทบต่อราคาน้ำมันโลก ขณะเดียวกัน ประเมินว่า สถานการณ์รุนแรงยึดเมืองน้ำมันจากกลุ่มกบฎในอิรัก จะส่งผลกระทบต่อยอดส่งออกน้ำมันของกลุ่มโอเปค โดยอิรักถือเป็นประเทศยักษ์ใหญ่น้ำมันอันดับสองของกลุ่ม รองจากซาอุดิอาระเบีย รวมทั้งสถานการณ์รุนแรงในไนจีเรียด้วย ขณะที่ลิเบียคาดว่าจะกลับมาส่งออกน้ำมันได้ในเร็ว ๆ นี้หลังจากสามารถยึดคืนท่าเรือส่งน้ำมันสองแห่งทางภาคตะวันออกของประเทศคืนจากกลุ่มกบฎต่อต้านรัฐบาลลิเบียได้
ที่ผ่านมา สหรัฐได้ลงทุนการด้านการพัฒนาน้ำมันและแก๊สในประเมินเป็นมูลค่ามหาศาลกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นตัวเลข 20 เปอร์เซนต์ของงบประมาณใช้จ่ายด้านทรัพย์สินคงที่ของภาคธุรกิจเอกชนทั้งระบบของสหรัฐ และคาดว่า สหรัฐจะสามารถส่งออกน้ำมันดิบ 1 ล้าน และก๊าซธรรมชาติเหลวอีก 3 หมื่นบาเรล ได้ก่อนสิ้นปีนี้