มาเฟีย-ขาใหญ่อันดามันหนาว ทัพเรือภาค3ล้างบางอิทธิพลมืด
ทัพเรือภาคที่ 3 รับลูก คสช.เร่งล้างบางผู้มีอิทธิพลทำผิดกฎหมายในพื้นที่ 6 จังหวัดอันดามัน ขึ้นบัญชีผู้มีอิทธิพลเกือบ 60 คน พบข้อมูลบุกรุกป่า-ยึดครองที่ดินรัฐผิดกฎหมายเพียบ
พลเรือโทธราธร ขจิตสุวรรณ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 เปิดเผยว่า ได้รับมอบนโยบายจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้ปราบปรามผู้มีอิทธิพลโดยเฉพาะภัยคุกคามทุกรูปแบบทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้ประเทศไทยคืนสู่ความสุข
ทั้งนี้ ทัพเรือภาคที่ 3 รับผิดชอบดูแลพื้นที่ 6 จังหวัดฝั่งทะเลอันดามัน ได้แก่ จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล มีภารกิจในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล การขจัดปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงในรูปแบบใหม่ การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ยาเสพติดอาวุธสงคราม การบุกรุกที่ดินของรัฐตามเกาะและชายฝั่ง รวมทั้งการทำลายทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล
"ภัยคุกคามโดยเฉพาะกลุ่มผู้มีอิทธิพล ปัจจุบันกลุ่มคนเหล่านี้ทำผิดกฎหมายหลายประการ เช่น การบุกรุกที่ดินของรัฐที่สาธารณะ ป่าไม้ อุทยานแห่งชาติทางทะเล โดยมักจะมีความคุ้นเคยกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบางคนร่วมกันกระทำผิดกฎหมาย"
ล่าสุด ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่สวนป่าบางขนุน พื้นที่ 4,000 ไร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้รายงานว่า ถูกบุกรุกเหลือประมาณ 500 ไร่เท่านั้น จึงต้องดำเนินคดีกับผู้บุกรุก ส่วนพื้นที่อื่นได้ให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบดูแล และส่งรายงานผลการปฏิบัติ
นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้บุกรุกในเขตฐานทัพเรือพังงา บริเวณพื้นที่เขาหน้ายักษ์ คลองลำรู่ ขณะที่เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล มีรายงานว่ารีสอร์ตประมาณ 200 แห่ง ไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งจะต้องมีการดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด
นอกจากนั้นยังมีรายชื่อผู้มีอิทธิพลทางทะเลที่ขึ้นบัญชีไว้มีจำนวนมาก50-60 คน ซึ่งเป็นขบวนการทำผิดกฎหมายหลายอย่างเช่น ค้ามนุษย์ แรงงานเถื่อน ค้ายาเสพติด บุกรุกที่ดินของรัฐ ซึ่งได้เชิญตัวมาพบขอความร่วมมือปรับความเข้าใจให้ลดละเลิก เพื่อให้ประเทศไทยมีความสุข ไม่ทำผิดกฎหมายเพิ่ม
พร้อมกันนี้ ภาคเอกชนท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดอันดามันยังมีข้อเสนอให้จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษคล้ายกับเมืองพัทยาเนื่องจากมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีท่องเที่ยวจำนวนมาก
"กลุ่มท่องเที่ยว 5 จังหวัดอันดามันบอกว่า รายได้ที่รัฐให้ภูเก็ตมีจำนวนน้อยเกินไป รายได้ไม่เพียงพอตามการขยายตัวของเมือง จึงเสนอให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้งหมด ซึ่งจะได้เสนอข้อมูลกลุ่มท่องเที่ยวไปที่ผู้บัญชาการทหารเรือ เพื่อพิจารณาต่อไป" ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าว