งบการเงินอ่านง่ายๆ

งบการเงินอ่านง่ายๆ

งบการเงินอ่านง่ายๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากที่ได้รู้เรื่องการเลือกหุ้นและประเภทของหุ้นคร่าวๆกันแล้ว เรามาลงรายละเอียดกันหน่อยละกันนะค้า
1. กำไร => บริษัทที่ถูกตั้งขึ้นมานั้น จะอยู่ได้หรือไม่มันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการทำกำไรของตัวธุรกิจ ยิ่งกำไรเยอะ ก็แปลได้หลายๆอย่างคือ ผู้บริหารเก่ง หรือผลิตภัณฑ์เป็นที่ต้องการมาก หรือมีการตลาดที่สร้าง Brand Loyalty ได้ดีกว่าคู่แข่ง ฯลฯ ยิ่งกำไรมาก ในระยะยาวมันจะสะท้อนกลับมาทำให้ราคาหุ้นโตขึ้นไปด้วย  อีกอย่างยิ่งกำไรมาก โอกาสที่ผู้ถือหุ้นจะได้ปันผลสูงขึ้นก็มีมากขึ้นไปด้วย ดังนั้นในการที่จะฝากเงินออมสุดรักสุดหวงของเราไว้กับหุ้นของบริษัทไหนแล้ว อย่างน้อยก็ควรจะเลือกบริษัทที่มีการเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่อง =)
ซึ่งสำหรับมือใหม่ เราจะไปดูกำไรที่ไหนกันหล่ะ? ตามไปที่ www.set.or.th แล้วพิมพ์ชื่อหุ้นที่ต้องการดูลงในช่อง ‘Get Quote’ ที่มุมบนขวา > พอมาถึงอีกหน้าก็คลิก ‘งบการเงิน/ผลประกอบการ’


 
ทีนี้ก็ดูได้ละว่าบริษัทนี้ กำไรเพิ่มขึ้น หรือลดลง เสร็จแล้วอย่าจบแค่นั้นนะ ไม่ใช่กำไรเพิ่มก็ดี กำไรลดก็แย่ เราควรจะเจาะลงต่อว่า กำไรเพิ่มเพราะอะไร ถ้ากำไรลดเป็นเพราะอะไร มีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน? แล้วเหตุการณ์ที่ว่านี่มันมีโอกาสเกิดขึ้นอีกมั้ย และมีโอกาสเกิดขึ้นมากแค่ไหน ป้องกันได้รึป่าว? ฯลฯ

2. P/E Ratio อันนี้ถ้าไม่ใช่มือใหม่แกะกล่องจริงๆ ทุกคนต้องรู้จักตัวนี้ มันคือราคาหุ้นหารด้วยกำไรต่อหุ้นนั่นเอง อันนี้นานิจะดูว่ามันสูงไปรึยัง ยิ่งสูงยิ่งแปลว่ากำไรมันน้อยเมื่อเทียบกับราคา ซึ่งก็แปลว่าราคาหุ้นนั้นสูงกว่าความเป็นจริง นานิคิดว่าส่วนมาก P/E น้อยกว่า 10-15 นั้นกำลังดี แต่ก็นั่นแหละมันแล้วแต่อุตสาหกรรมเลย นักลงทุนบางคนก็จะมองว่าบางทีกำไรมันอาจจะโตขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเค้าก็จะยอมจ่ายซื้อหุ้นที่ราคาแพง เมื่อเทียบกับกำไรปัจจุบัน(P/E สูง) คือบริษัทที่กำลังโตอย่างรวดเร็ว แบบว่ายอดขายโตขึ้น กำไรโตขึ้นทุกปี อย่างนี้ P/E สูงยังพอรับได้ แต่ถ้าบริษัทที่ไม่ได้ขยายเร็วขนาดนั้น แล้วก็ไม่ได้กำไรพุ่งทุกไตรมาส นานิจะไม่ซื้อเด็ดขาดถ้า P/E สูงเกินไป
           ปีที่แล้วนี่ดูจะเป็นช่วง ‘Stock Mania’  คือดูจะราคาพุ่ง คนไล่ซื้อกันเว่อไปหน่อย นานิเคยเห็นบางตัวแล้วช็อค คือ P/E เกือบพัน ยังมีคนไล่ซื้อดันทุลังกันขึ้นไป ตอนนี้ (18 กุมภาพันธ์ 2556) P/E ประมาณ 1,500 เท่าน่าจะได้

 

 

                                                                              ข้อมูลจาก  www.settrade.com 


Oh My God!! คือ อ่ะบางคนอาจจะบอกว่า ก็ทุกคนเค้าคาดว่าบริษัทนี้จะได้กำไรเพิ่มขึ้นมาก ในไตรมาสนี้หรือปีนี้ ดังนั้น E ก็จะเพิ่มสูงขึ้น แล้ว P/E ก็จะลดลง แต่ เอาจริงๆถ้าจะคิดเลขกัน เพื่อนๆลองคิดกันเองละกันว่าบริษัทนี้ต้องกำไรเพิ่มขึ้นกี่ % P/E มันถึงจะกลับมาอยู่ต่ำกว่า 50?

วันนี้ฝากไว้เท่านี้ก่อน แล้วเจอกันใหม่นะค้าพร้อมกับเรื่องราวในงบการเงินตอนต่อไปค่ะ ^_^

ผู้เขียน : นานิ นิธินวกร ผู้เขียนหนังสือ “สร้างเงินล้านก่อนเรียนจบ”

สนับสนุนข้อมูลโดย : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (www.set.or.th/onlineinvestor)  

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook