3 ข้ออ้างใช้บัตรเครดิตเกินตัวที่ควรเลิก!

3 ข้ออ้างใช้บัตรเครดิตเกินตัวที่ควรเลิก!

3 ข้ออ้างใช้บัตรเครดิตเกินตัวที่ควรเลิก!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คุณมักจะได้ยินคำเตือนอยู่เสมอๆ ว่า "บัตรเครดิต อย่าไปมีเลย เดี๋ยวเป็นหนี้" “ไม่มีหนี้ดีที่สุดแล้ว อย่าไปสมัครนะ ธนาคารมันจะหลอกคุณ" คำพูดเหล่านี้จริงเสมอหรือไม่? บัตรเครดิต หรือคนใช้กันแน่ที่ทำให้เกิดปัญหาหนี้สินตามมา ทั้งๆ ที่บัตรเครดิตมีประโยชน์มากมาย ทั้งช่วยคุณเวลาไม่มีเงินสดติดตัว ช่วยให้คุณสะสมคะแนนแลกของรางวัล และสนุกไปกับสิทธิประโยชน์มากมาย เพราะฉะนั้น จริงๆ แล้วการใช้บัตรเครดิตจนเป็นปัญหา อยู่ที่การใช้มากกว่า วันนี้ MoneyGuru.co.th ขอเสนอ 3 ข้ออ้างยอดฮิตที่ทำให้คุณใช้บัตรเครดิตจนเกินตัวและเป็นหนี้ และเราควรจะเลิกนิสัยแบบนั้นได้อย่างไร

ข้ออ้างที่ 1 : วันนี้เซงอ่ะ โดนเจ้านายว่า ขอช้อปปิ้งหน่อยนะ!
การช้อปปิ้ง เพื่อคลายเครียดคือสิ่งที่หลายๆ น่าจะคุ้นเคยอยู่ไม่น้อย บางคนคิดว่า เอาว่ะ ทำงานมาเหนื่อยๆ โดนว่ามาอีก ขอช้อปกระจายหน่อยละกัน จนทำให้ปลายเดือน หรือบิลเครดินมา คุณถึงขั้นหน้ามดเลยทีเดียว เพราะฉะนั้น ครั้งหน้าหากคุณคิดจะรูดกระจาย คลายเครียดอีกละก็ คิดหน้าคิดหลังซักนิด ว่าสุดท้ายคุณสามารถรับกับผลที่ตามมาได้หรือเปล่า นั่นก็คือชำระหนี้บัตรเครดิตไง เพระอย่าลืมว่า อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตสูงถึง 18-20% หากคุณไม่สามารถจ่ายหนี้ได้เมื่อบิลออกมา รับรองว่า ดอกเบี้ยบานแน่นอน

วิธีแก้
แน่นอนว่า การคลายความเครียดออกมาบ้างคือเรื่องจำเป็น แต่ก็ไม่ใช่ว่าการคลายเครียดจะมีวิธีเดียวเสียเมื่อไหร่ล่ะ บางทีการอกมาเดินสวนสาธารณะ ชมนกชมไม้ ค่อยค่อยคิดคำนวนมองหาแง่ดีของสิ่งที่เกิดขึ้น ก็ช่วยได้ไม่น้อย หรือการไปหาเพื่อนสนิท พูดระบาย อาจได้แง่คิดดีๆ จากเพื่อนของคุณเช่นกัน อีกไม่นานรับรองว่า คุณจะหายเครียดแน่นอน

ข้ออ้างที่ 2 : เดี๋ยวโบนัสก็ออกละ เดี๋ยวค่อยจ่ายหนี้เครดิตก็ได้
เราทุกคนต่างตื่นเต้นกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะเรื่องโบนัสปลายปี แต่การใช้จ่ายเงินมากมาย เพราะคิดว่าอนาคตก็สามารถนำเงินโบนัสมาจ่ายได้ คือการใช้ชีวิตที่ประมาทเป็นอย่างยิ่ง ลองจินตนาการว่า คุณรูดบัตรเครดิตซื้อทีวีจอยักษ์ในราคา 50,000 บาท เป็นของขวัญให้ตัวเอง เพราะคิดว่าปลายปีก็ได้โบนัสอย่างแน่นอนเพื่อนำมาเคลียร์หนี้ได้ แต่สุดท้ายโบนัสอาจจะไม่ออก หรือออกแต่เลื่อนออกไปก่อน หรือ ออกไม่เท่ากับที่คุณคาดการณ์ไว้ และสุดท้าย คุณต้องกรีดเนื้อ นำเงินเก็บมาจ่ายหนี้ หรือ ต้องติดหนี้ โดนดอกเบี้ยบัตรเครดิตตามหลอกหลอนอีก จนกว่าโบนัสจริงๆ ที่คุณคาดหวังจะออก

วิธีแก้
วิธีที่ดีที่สุดในเคสนี้คือการเตือนคุณเองว่า การตัดสินใจเรื่องการเงินอย่างไม่ประมาทในฐานะผู้ใหญ่แล้ว คือต้องสมเหตุสมผล และคำว่าสมเหตุมผลในกรณีนี้คือ หากคุณต้องการซื้อของขวัญให้ตัวเองในปีนี้ คุณต้องรอโบนัสจริงๆ ออกมาก่อน ให้คุณได้เงินจริงๆ ก่อน แล้วค่อยนำไปซื้อของที่คุณอยากได้ มันอาจจะต้องอดทนรอซักนิด แต่นี่แหละ คือการตัดสินใจทางการเงินอย่างคนที่มีวินัย ที่แท้จริง

ข้ออ้างที่ 3 : เพื่อนชวนไปเที่ยวเมืองนอก ปฏิเสธไม่ได้!
คนทุกคนคงเคยโดนสิ่งที่เรียกว่า "Peer pressure” กันมาบ้าง คือ การกดดันจากเพื่อน อย่างเช่นเวลาไปเที่ยว หากทุกคนไปได้ แต่คุณไปไม่ได้ ก็จะโดนกดดัน แต่เมื่อคุณโตแล้ว คุณไม่สามารถยอมใจอ่อนง่ายๆ แบบตอนสมัยเรียนได้อีกต่อไป เพราะคุณมีหน้าที่การเงินและการเงินที่ต้องรับผิดชอบ อาทิ บางทีปีนี้คุณพึ่งตัดสินใจซื้อคอนโด และต้องมีค่าใช้จ่ายตามมามากมาย การไปเที่ยวเมืองนอก ที่ต้องใช้บัตรเครดิตกระจาย และคุณต้องมจมกองหนี้บัตรเครดิตเพิ่มอีก คงเป็นเรื่องนี้น่าปวดหัวไม่น้อย

วิธีแก้
การเรียนรู้ที่จะปฏิเสธคน คือ สิ่งที่ดีที่สุด และเป็นสิ่งที่คนที่โตแล้ว มีหน้าที่รับผิดชอบ พึงกระทำ หากเพื่อนของคุณเป็นคนมีเหตุผล และสนิทกันจริง คุณพูดตรงๆ กับเขาว่าคุณต้องใช้เงินเยอะในช่วงนี้ เพื่อนคุณย่อมเข้าใจ เพระาฉะนั้นอย่าเกรงใจเพื่อนจนเกินไป

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือบัตรเครดิต เราอยู่เคียงข้างคุณเสมอที่  www.moneyguru.co.th

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook