เปิดอันดับเมืองที่ศักยภาพแข่งขันสูงสุดในโลก
The Economist Intelligence Unit ได้จัดอันดับ 120 เมืองใหญ่ของโลก ที่มีศักยภาพด้านการแข่งขันสูงสุด โดยจากการอันดับวัดจากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ ความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจ,ทุนด้านมนุษย์และทุนเชิงกายภาพ การเป็นสถาบันด้านการเงิน,แรงดึงดูดด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และต่อโลกภายนอก ซึ่งผลการจัดอันดับ มีดังนี้
อันดับ 1.นิวยอร์ก ครองอันดับ 1 เมืองใหญ่ที่มีศักยภาพด้านการแข่งขันสูงสุด
นครนิวยอร์ก หรือที่นิยมเรียกว่า นิวยอร์กซิตี ( New York City ตัวย่อ NYC) เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา เป็นเมืองที่เจริญที่สุดในโลก เป็นมหานครเอกของโลก จัดได้ว่าเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเงิน วัฒนธรรม บันเทิง ที่สำคัญที่สุดของโลก เป็นเมืองที่มี ตึกระฟ้า ตึกสูงมากที่สุดในโลก ตลอดระยะเวลา 150 ปี และยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ
นิวยอร์กตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา ประกอบด้วย 5 เขตปกครองที่เรียกว่า โบโรฮ์ (Borough) คือ เดอะบรองซ์ บรูคลิน แมนแฮตตัน ควีนส์ และสแตตัน ไอส์แลนด์
อันดับ 2.ลอนดอน ( London) เป็นเมืองหลวงของอังกฤษ และสหราชอาณาจักร และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรป
เป็นเมืองที่มีศูนย์กลางทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก ลอนดอนเป็นหนึ่งในศูนย์กลางสำคัญทางธุรกิจ การเมือง วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของโลก เป็นผู้นำด้านการเงิน การเมือง การสื่อสาร การบันเทิง แฟชั่น และศิลปะ
ในอดีตเป็นเมืองหลวงของโลก เป็นเมืองที่เจริญที่สุดในโลก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นเมืองที่มีอิทธิพลไปทั่วโลก ถือกันว่าเป็นเมืองสากลหลักของโลก จีดีพีของลอนดอน คิดเป็นร้อยละ 19.5 ของสหราชอาณาจักร
ลอนดอนเป็นศูนย์กลางการคมนาคมในระดับนานาชาติ และเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของทวีปยุโรป โดยสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในลอนดอน คือ ท่าอากาศยานนานาชาติฮีทโธรว์
อันดับ 3. สิงคโปร์
สิงคโปร์ ( Singapore) เป็นนครรัฐที่ตั้งอยู่บนเกาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่ทางใต้สุดของคาบสมุทรมาเลย์ ติดกับรัฐยะโฮร์ของประเทศมาเลเซีย และอยู่ทางเหนือของเกาะสุมาตราของประเทศอินโดนีเซีย
อันดับ 4.ปารีสและฮ่องกง
ปารีส (Paris) เป็นเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนแม่น้ำแซน บริเวณตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส บนใจกลางแคว้นอีล-เดอ-ฟร็องส์ เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีประชากรสูงที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปยุโรป ปารีสมีชื่อเล่นมากมาย แต่ชื่อที่โด่งดังที่สุดคือ "นครแห่งแสงไฟ" ซึ่งหมายความว่าเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนและความรู้ ทั้งยังหมายความว่าเป็นเมืองที่สว่างไสวเต็มไปด้วยแสงไฟอีกด้วย ตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา ทั้งนี้ กรุงปารีสเป็นหนึ่งใน 4 นครสำคัญของโลก โดย 3 นครสำคัญของโลกคือ ลอนดอน, โตเกียว และ นิวยอร์ก
ฮ่องกง เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ( Hong Kong ) เป็นเขตปกครองของสาธารณรัฐประชาชนจีน อยู่ติดกับมณฑลกวางตุ้ง และห่างจากมาเก๊าราว 61 กิโลเมตร ทางฝั่งตะวันตก
โดยสภาประชาชนจีนได้อนุมัติและประกาศใช้เป็นกฎหมาย เมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2533 ให้สิทธิฮ่องกงในการปกครองตนเองอย่างอิสระ สามารถดำเนินนโยบายทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การเงิน การพาณิชย์ ฯลฯ ได้ตามระบบเสรี
อันดับ 5. กรุงโตเกียว
โตเกียว (Tokyo) เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น มีระบบการปกครองแบบพิเศษซึ่งรวมการปกครองในรูปแบบจังหวัดและเมืองไว้ด้วยกัน และเป็นเขตเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก จำนวนประชากรทั้งหมดของโตเกียว มีทั้งหมดกว่า 35 ล้านคน
โตเกียวเป็นหนึ่งในสามศูนย์กลางทางการเงินของโลกร่วมกับนครนิวยอร์กและลอนดอน โตเกียวตั้งอยู่บริเวณภาคคันโตของญี่ปุ่น คำว่า "โตเกียว" หมายถึง "นครหลวงตะวันออก" ในพื้นที่โตเกียวยังเป็นที่ตั้งของพระราชวังอิมพีเรียล
นอกจากนี้ กรุงวอชิงตัน,เมืองชิคาโก้ และบอสตัน ยังร่วมติดอันดับ Top Ten สำหรับอันดับอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
อันดับ 13. กรุงเจนีวา
เจนีวา ( Geneva) เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (รองจากซูริก) ตั้งอยู่บริเวณที่ทะเลสาบเจนีวา ไหลเข้ารวมกับแม่น้ำโรห์น
เจนีวาได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองนานาชาติ (Global City) เนื่องจากเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างชาติสำคัญๆ หลายองค์กร เช่น สำนักงานใหญ่ขององค์การสหประชาชาติประจำทวีปยุโรป, องค์การอนามัยโลก (WHO), องค์การการค้าโลก (WTO) เป็นต้น เจนีวายังเป็นสถานที่จัดตั้งองค์การสันนิบาตชาติ ใน ค.ศ. 1919 และกาชาดสากล ใน ค.ศ. 1864
อันดับ 15. กรุงซิดนีย์
ซิดนีย์ (Sydney) เป็นเมืองหลวงของรัฐนิวเซาธ์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย มีประชากรมากว่า 4 ล้านคนและเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในออสเตรเลีย ซิดนีย์ ตั้งขึ้นเมืองปี พ.ศ. 2331 บนหาดฝั่งทางตะวันออกของออสเตรเลียเมื่ออาร์เธอร์ ฟิลิปป์ และลูกเรือขึ้นฝั่งและอ้างกรรมสิทธิของอังกฤษเหนือดินแดนออสเตรเลีย
อันดับ 37.มหานครไทเป (Taipei)
เป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐจีน หรือไต้หวัน และยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะไต้หวันอีกด้วย ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะไต้หวัน เป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมของไต้หวัน เป็นที่ตั้งรัฐบาล และยังเป็นแหล่งอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศ เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ เครื่องหนัง จักรยานยนต์ และยังเป็นอู่ต่อเรือด้วย
มหานครไทเป เป็นเขตปกครองตนเอง ขึ้นตรงต่อรัฐบาลสาธารณรัฐจีน เช่นเดียวกับกรุงเทพมหานคร และพัทยาของประเทศไทย
อันดับ 39. กรุงปักกิ่ง
ปักกิ่ง (Beijing) เป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาชนจีน ปัจจุบัน แบ่งเป็น 16 เขตและ 2 อำเภอ เป็นนครที่ขึ้นตรงต่อส่วนกลาง เป็นศูนย์การเมือง วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ การศึกษาและเขตชุมทางการคมนาคมทั่วประเทศจีนและก็เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อดังทั้งในประเทศจีนและในโลก ปัจจุบันนี้ปักกิ่งมีถนนที่สลับกัน ตึกสูงๆ โดยไม่เพียงแต่รักษาสภาพเมืองโบราณ และยังแสดงถึงสภาพเมืองที่ทันสมัย กลายเป็นเมืองใหญ่ของโลก
ปักกิ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของจีน รองจากเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่งเป็นศูนย์กลางทางการปกครอง การศึกษา การขนส่ง และวัฒนธรรมจีน ในขณะที่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจนั้นจะอยู่ที่เซี่ยงไฮ้และฮ่องกง
อันดับ 59.กรุงเทล อาวีฟ
เทลอาวีฟ (Tel Aviv) หรือ เทลอาวีฟ-ยาโฟ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของประเทศอิสราเอล เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เทลอาวีฟก่อตั้งในปี ค.ศ. 1909 บนเขตพื้นที่รอบนอกของเมืองท่าโบราณจัฟฟา ความเจริญของเทลอาวีฟได้ก้าวไปไกลกว่าเมืองจัฟฟาที่ในตอนนั้นเป็นของอาหรับอยู่ จนเทลอาวีฟและจัฟฟาถูกรวมเป็นเมืองเดียวกันในปี ค.ศ. 1950 สองปีหลังจากการก่อตั้งรัฐอิสราเอล นครสีขาวแห่งเทลอาวีฟได้รับการขึ้นเป็นมรดกโลกในปี 2003 ถือเป็นการรวมกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เทลอาวีฟเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญและเป็นเมืองที่มั่งคั่งที่สุดในอิสราเอล และยังได้ฉายาว่า "เมืองที่ไม่เคยหลับ" อีกด้วย
อันดับ 61.กรุงเทพมหานคร
กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวง และเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศไทย รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการปกครอง การศึกษา การคมนาคมขนส่ง การเงินการธนาคาร การพาณิชย์ การสื่อสาร และความเจริญของประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีชื่อยาวที่สุดในโลกอีกด้วย มีแม่น้ำสำคัญคือ แม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่าน ทำให้แบ่งเมืองออกเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี โดยกรุงเทพมหานครมีพื้นที่ทั้งหมด 1,568.737 ตารางกิโลเมตร
อันดับ 62.กรุงเซา เปาโล
เซาเปาโล เป็นรัฐใน ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ของ บราซิล เป็นรัฐที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศบราซิล แต่ก็มีสองรายได้ต่อหัวสูงสุด (ต่ำกว่าเท่านั้น ใน Federal District ) และกับรัฐของ Rio Grande do Sul ที่ และ Santa Catarina , มาตรฐานสูงสุดของชีวิตอยู่ในประเทศบราซิลแม้จะมีความยากจนในส่วนอุปกรณ์ต่อพ่วงบางส่วนของเมืองที่ใหญ่
อันดับ 73. เมืองเคปทาวน์
เคปทาวน์ ( Cape Town) เป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 และเป็นเมืองหลวงศูนย์กลางของฝ่ายนิติบัญญัติของประเทศแอฟริกาใต้ เมืองเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 300 ปี ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดและมีเสน่ห์ที่สุดเมืองหนึ่งในโลก เป็นเมืองเล็กๆที่มีชื่อเสียงที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศแอฟริกาใต้ ตรงแหลมกู๊ดโฮป ที่ยื่นออกไปทางระหว่างสองมหาสมุทร คือ มหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแอตแลนติก
อันดับ 89. เมืองโบโกตา
โบโกตา ชื่อทางการคือ โบโกตาดิสตรีโตกาปีตัล และยังมีชื่อเรียกว่า ซานตาเฟเดโบโกตา เป็นเมืองหลวงของประเทศโคลอมเบีย และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและมีประชากรมากที่สุดของประเทศ คือ 7,321,831 คน (จากการสำรวจปี พ.ศ. 2548)
อันดับ 109. กรุงโฮจิมินห์
นครโฮจิมินห์ หรือ โฮจิมินห์ซิตี (Ho Chi Minh City ตัวย่อ HCMC) หรือชื่อเดิม ไซ่ง่อน (Saigon) เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง โฮจิมินห์เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเวียดนาม จากประชากรร้อยละ 7.5 ของประเทศ แต่มีจีดีพีถึงร้อยละ 20.2 และการลงทุนจากต่างประเทศมากถึงร้อยละ 34.9 ของทั้งประเทศ
อันดับ 115. กรุงไนโรบี
ไนโรบี (Nairobi) เป็นเมืองหลวงของประเทศเคนยา และยังเป็นเมืองศูนย์กลางธุรกิจ การพาณิชย์ และอุตสาหกรรมในภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก ตั้งแต่ปี 1899 เป็นต้นมาไนโรบีได้เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มจากสร้างทางรถไฟเชื่อมระหว่างอูกานดากับเคนยาทำให้ไนโรบีกลายเป็นเมืองศูนย์กลางการคมนาคมในภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก
ปัจจุบันกรุงไนโรบีนับเป็นเมืองหนึ่งในทวีปแอฟริกาที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้า และเป็นเมืองใหญ่ของทวีปแอฟริกา นอกจากกรุงไคโร เลกอส โจฮันเนสเบิร์ก
อันดับ 120. เตหะราน
กรุงเตหะราน (Teheran) เป็นเมืองหลวงของประเทศอิหร่าน และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในแถบประเทศตะวันออกกลาง และยังเป็นเมืองศูนย์กลางอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของประเทศ เช่น อุตสาหกรรมน้ำมัน อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ ฯลฯ เตหะรานยังเป็นเมืองศูนย์กลางธุรกิจ การบินพาณิชย์ ในภูมิภาคตะวันออกกลางด้วย
เตหะรานในภาษาเปอร์เซียแปลว่า อ้อมเขาอันอบอุ่น ซึ่งหมายถึงชาวเมืองที่อาศัยอยู่อย่างสงบและมีสันติสุขภูมิภาคนี้
ขอบคุณข้อมูล VoiceTV