กกร.นัดถก 4 ส.ค. ปมคสช.เตรียมขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ห่วงทำของแพง

นายเกรียงไกร เธียรนุกูร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)  เปิดเผยถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีนโยบายปรับเพิ่มเงินเดือน-ค่าตอบแทนของข้าราชการว่า  ขณะนี้สถานการณ์เศรษฐกิจยังไม่ดีนัก ตัวเลขทางเศรษฐกิจปรับลด ทั้งของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ไม่มีเงินอัดฉีดเข้าระบบ สถานการณ์เหล่านี้ส่งผลต่อการทำธุรกิจของเอกชน ซึ่งแรงงานรับรู้เพราะไม่มีการทำงานนอกเวลา (โอที) มาระยะหนึ่งแล้ว ส่งผลให้ทุกคนต้องประหยัดค่าใช้จ่าย ดังนั้น ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันจึงยังไม่มีพนักงานเอกชนเรียกร้องให้เพิ่มเงินเดือน สวัสดิการ ประกอบกับที่ผ่านมาฐานเงินเดือนของเอกชนมีระดับเหมาะสมคือ ค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ที่ 300 บาทต่อวัน เงินเดือนปริญญาตรีอยู่ที่ 15,000 บาท

"นโยบายการขึ้นเงินเดือนและสวัสดิการข้าราชการนั้น เชื่อว่า คสช.กำลังต้องการเพิ่มเงินในมือข้าราชการให้เกิดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทางหนึ่ง" นายเกรียงไกรกล่าว

นายเกรียงไกรกล่าวว่า เอกชนกำลังติดตามเรื่องนี้ โดยวันที่ 4 สิงหาคม มีความเป็นไปได้ที่จะนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ซึ่งเป็นการประชุมประจำเดือนสิงหาคม เพื่อสอบถามความเห็น และผลกระทบจากนโยบายดังกล่าว เพราะแม้ไม่บังคับเอกชน แต่ตามปกติเมื่อภาครัฐปรับฐานเงินเดือน เอกชนจะปรับตามด้วย

"สิ่งที่น่าห่วงมากที่สุด คือ ราคาสินค้าอาจปรับไปก่อนที่จะมีการปรับเงินเดือนอย่างเป็นทางการ จนอาจกระทบค่าครองชีพ รวมทั้งเงินเฟ้ออาจสูงขึ้นได้ ดังนั้น อยากให้พิจารณาอย่างเหมาะสม หรืออาจมีมาตรการดูแลกลุ่มผู้ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าไปล่วงหน้าแล้ว" นายเกรียงไกรกล่าว