ลงทุนสบายใจในวัยเกษียณ

ลงทุนสบายใจในวัยเกษียณ

ลงทุนสบายใจในวัยเกษียณ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ความเจริญก้าวหน้าทางการแพทย์ในปัจจุบัน ทำให้คนไทยมีอายุยืนขึ้น ดังนี้


                                                                                                                          


“ตายแล้วใช้เงินไม่หมด ยังสลดน้อยกว่าเงินหมดก่อนตาย” เป็นคำพูดที่เราอ่านเจอทางหน้า Facebook คิดว่ามันถูกต้องมากๆ เพราะการมีอายุยืนขึ้นนั้นส่งผลต่อเงินออมที่เราต้องเก็บมากขึ้น แล้วต้องลุ้นว่าเงินที่เก็บไว้นั้นจะพอใช้ถึงวาระสุดท้ายของชีวิตหรือไม่ ซึ่งวัยเกษียณนั้นเราจะมีเรี่ยวแรงในการทำงานน้อยลง ไม่สามารถทำงานหนักเพื่อสร้างรายได้เหมือนสมัยวัยรุ่น เราลองนึกภาพถึงช่วงสุดท้ายของชีวิตหากเราเจ็บป่วย ต้องหาเงินมารักษาตัว ความยากลำบากของชีวิตจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ถ้าเราไม่เริ่มออมเงินตั้งแต่ตอนนี้


ดังนั้น การออมเงินให้เพียงพอไว้ใช้ช่วงเกษียณเป็นสิ่งที่สำคัญเท่ากับวิธีการออมเงิน ถ้าเราเก็บไว้ในรูปแบบออมทรัพย์เพียงอย่างเดียวนั้นอาจจะไม่เพียงพอ เพราะดอกเบี้ยจากธนาคารน้อยเหลือเกิน ฝากออมทรัพย์ได้รับดอกเบี้ย 0.75% แต่ในขณะเดียวกันเราซื้อของแพงขึ้น 3% (สมมติฐานเงินเฟ้อคงที่ 3%) ทำให้อำนาจการใช้จ่ายของเราลดลงเพราะผลตอบแทนจากการฝากเงินของเราโตไม่ทันราคาของที่แพงขึ้น


วิธีรักษาอำนาจการจ่ายของเราให้เหมือนเดิมนั้นควรนำเงินออมบางส่วนไปต่อยอดด้วยการลงทุนเพื่อรักษามูลค่าของเงินให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและสร้างผลตอบแทนกลับมาให้เราอย่างสม่ำเสมอ เมื่ออ่านถึงตรงนี้บางท่านอาจจะคิดว่าถ้าต้องการให้เงินเติบโตเร็วๆก็ควรรีบนำเงินมาลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงๆ ให้เงินงอกเงยเร็วๆน่าจะทำให้ชีวิตที่สุขสบายในวัยเกษียณ


อย่าลืมว่าการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง ความเสี่ยงย่อมสูงไปด้วย ซึ่งความเสี่ยงนั้นเป็นความผันผวนจากผลตอบแทนจากการลงทุน โดยความเสี่ยงมี 2 รูปแบบ คือ
1. ความเสี่ยงที่ได้รับผลตอบแทนมากกว่าที่คิดไว้
2. ความเสี่ยงที่ได้รับผลตอบแทนน้อยกว่าที่คิดไว้

ถ้าลงทุนแล้วได้รับผลตอบแทนมากกว่าที่คิดไว้ก็นับว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากับความเสี่ยง ทำให้เราจะรู้สึกมีความสุขและมีความมั่งคั่ง แต่ในขณะเดียวกันถ้าการลงทุนนั้นล้มเหลวไม่เป็นท่า ทำให้เงินออมที่เก็บมานานนั้นลดลงฮวบฮาบ ความมั่งคั่งที่วาดฝันไว้ก็จะพังทลายลง ยิ่งความผันผวนมาก ความคาดหวังยิ่งมากและความเครียดจากการลงทุนยิ่งมาก ถ้าใครนำเงินไปลงทุนแล้วนอนไม่หลับเพราะกังวลกับสิ่งที่ลงทุนไป จะยิ่งส่งผลต่อการตัดสินใจในการลงทุนที่อาจจะผิดพลาด ทำให้ไม่บรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้รวมทั้งมีสุขภาพจิตที่ย่ำแย่อีกด้วย


ดังนั้น การออมเงินระยะยาวเพื่อใช้ช่วงเกษียณนั้น โดยหลักการควรเก็บในสินทรัพย์ทางการเงินที่ปลอดภัย(เงินต้นไม่หาย) และมีความเสี่ยงต่ำ(ผันผวนน้อย) แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการยอมรับความเสี่ยงของนักลงทุนแต่ละท่านซึ่งมีมากน้อยแตกต่างกัน ดังนั้น ควรทำแบบทดสอบความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจเลือกกองทุน

ตัวอย่าง อัตราผลตอบแทนย้อนหลังของกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำไปสูง

ที่มา : http://bit.ly/1zXljV1 (http://www.morningstarthailand.com)

ข้อมูล: ม.ค.-มิ.ย. 2557

ผู้เขียน : อภินิหารเงินออม
สนับสนุนข้อมูลโดย : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  (www.set.or.th/onlineinvestor )

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook