4 วิธีลงทุนหุ้นไม่เครียด

ความเครียดเกิดจากการไม่สมหวังเพราะคาดหวังไว้สูงมากกว่าความสามารถที่ทำได้ ซึ่งความเครียดต่างๆจากการลงทุนเหล่านี้ที่ทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนของเราไม่บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ คุณเคยเจอความเครียดแบบนี้จากการลงทุนหุ้นหรือไม่?

 ซื้อหุ้น      หุ้นตก  เครียด.....เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะกลับมาพอร์ตเขียวเหมือนเดิม
 ซื้อหุ้น   หุ้นขึ้น  เครียด.....เพราะกังวลไม่รู้ว่าวันไหนจะตกหรือควรขายรักษากำไรไว้แล้วมาซื้อใหม่วันหลังดี
 ขายหุ้น  หุ้นตก  เครียด.....เพราะรู้งี้น่าจะขายไปก่อน ไม่งั้นคงได้กำไรมากกว่านี้
 ขายหุ้น  หุ้นขึ้น  เครียด.....เพราะขายหมู คิดว่าไม่น่ารีบขายทำให้ได้กำไรน้อยกว่าที่ควรจะได้

 เมื่อความเครียดเกิดขึ้นภายในจิตใจก็จะส่งผลกระทบต่อร่างกายและสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวเรา บางครั้งเครียดมากจนปวดหัว ปวดท้องทำการทำงานไม่ได้ ทำให้เสียงานเพราะผลงานที่ออกมานั้นไม่มีประสิทธิภาพ สมองของคนเราออกแบบมาให้จดจ่อได้เพียงสิ่งเดียวเท่านั้น ถ้าเราทำหลายอย่างในเวลาเดียวกันก็จะทำให้ความสามารถในการตัดสินใจลดลง เช่น ถ้าเรากำลังทำงานยุ่งมากในขณะเดียวกันก็ซื้อหุ้นเก็งกำไรที่ราคาขึ้นลงรวดเร็วไว้ด้วย สถานการณ์แบบนี้จะทำให้เราเครียดทั้งงานว่าจะทำงานเสร็จทันไหมและเครียดกับหุ้นว่าเงินที่ลงทุนไปนั้นจะเหลือเท่าไหร่ 
 อีกหนึ่งความเครียดที่ส่งผลต่อความสัมพันธ์กับเพื่อนหรือคนในครอบครัว ถ้าการลงทุนนั้นเกิดผลเสียด้านลบที่ทำให้เงินออมหายไปหรือเกิดหนี้สินก็อาจจะทำให้ผู้ลงทุนตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า ท้อแท้ ผิดหวังจนทำให้มีทัศนคติแง่ลบต่อการลงทุนบางครั้งอาจจะหงุดหงิดใส่คนรอบข้างจนทำให้บรรยากาศในครอบครัวไม่มีความสุข ถ้าเป็นลักษณะนี้มันไม่ใช่การลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่งในอนาคตแต่เป็นการลุ้นทุนระยะสั้นเพื่อลุ้นว่าเงินที่ลงทุนไปนั้นจะอยู่ครบไหมหรือหุ้นจะขึ้นแรงทำให้รวยรวดเร็วแบบทันตาเห็นรึเปล่า
 ดังนั้น เราควร แบ่งเวลาให้เหมาะสม อย่าให้ความเครียดจากการลงทุนนั้นทำลายช่วงเวลาอื่นๆให้เสียหายไปด้วย เราอาจจะปรับเปลี่ยนวิธีการลงทุน เช่น ขายหุ้นเน่าทิ้งซะเพื่อนำเงินที่เหลือมาเริ่มต้นใหม่ ไม่ลงทุนในหุ้นตัวใดตัวหนึ่งควรกระจายการลงทุนไปในหุ้นหลายๆตัวที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเพื่อกระจายความเสี่ยง ลองมองโลกการลงทุนในมุมมองใหม่ๆที่ไม่เครียดเพื่อให้มีความสุขกับการลงทุนมากขึ้น

4 วิธีลงทุนหุ้นไม่เครียด
1. ซื้อหุ้น  หุ้นตก  ไม่เครียด.....เพราะศึกษาพื้นฐานหุ้นตัวนั้นมาเป็นอย่างดี เป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อรอรับเงินปันผลจะไม่กังวลเรื่องความผันผวนระยะสั้น
2. ซื้อหุ้น  หุ้นขึ้น  ไม่เครียด.....เพราะเป็นไปตามพื้นฐานที่ได้ศึกษามา ไม่ควรกังวลไปก่อนล่วงหน้า แต่ถ้าพื้นฐานเปลี่ยนหรือขึ้นร้อนแรงเกินกว่าปกติก็จะทะยอยขายทำกำไรทีละนิด
3. ขายหุ้น  หุ้นตก  ไม่เครียด.....เพราะถ้าเราขาดทุนอยู่แล้วก็คิดว่า “ดีกว่าขาดทุนไปมากกว่านี้” หรือถ้าเราได้กำไรอยู่แล้วก็คิดว่า “ดีกว่าได้กำไรน้อยกว่านี้”
4. ขายหุ้น  หุ้นขึ้น  ไม่เครียด.....เพราะเราตัดสินใจในช่วงเวลาที่ดีที่สุด ณ ช่วงเวลานั้นและควรพอใจกับผลตอบแทนที่ได้รับ
แม้ว่า 4 ข้อข้างต้นเหมือนเป็นการปลอบใจตัวเอง แต่เป็นวิธีคิดที่ลดความเครียดจากการลงทุน เพราะการนั่งเสียใจกับอดีตมากเกินไปหรือเครียดจากสิ่งที่ยังมาไม่ถึงนั้นจะก่อให้เกิดผลร้ายในอนาคต เราเพียงจดจำความผิดพลาดไว้เป็นบทเรียนเพื่อจะได้ทำสิ่งที่ถูกต้องในอนาคตด้วยวิธีการลงทุนที่รักษาสมดุลของชีวิตส่วนตัว เพื่อน การทำงานและครอบครัว

ผู้เขียน : อภินิหารเงินออม
สนับสนุนข้อมูลโดย : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  (www.set.or.th/onlineinvestor)