สองแถวเรือด่วนชง คค.ขึ้นค่าโดยสารโอดดีเซลปรับราคา

เรือด่วนเจ้าพระยา ชี้ ดีเซลขึ้นราคากระทบต้นทุนเดินเรือ เล็งพบ รมต.คมนาคมคนใหม่ คุยค่าโดยสารทันที ชงขึ้น 2 บาททุกประเภท ขณะที่ ประธานชมรมผู้ประกอบการรถสองแถว เล็งชงเรื่องขอขึ้นค่าโดยสารอีก 3 บาท แนะรัฐทำโฆษณาชวนคนใช้บริการรถสาธารณะ
นาวาโท ปริญญา รักวาทิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า หลังจากที่ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลปรับขึ้น 14 สตางค์ วานนี้ ส่งผลกระทบกับบริษัทแน่นอน และถือเป็นปัญาหาอุปสรรคของบริษัทมาตลอดระยะเวลา 2 ปี เนื่องจากการประชุมร่วมกับกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ยังไม่ได้ข้อสรุปและในช่วงที่ผ่านมา ประเทศไทย มีการรัฐประหาร ดังนั้นจึงจำเป็นต้องรอนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่ ทั้งนี้ส่วนตัวเตรียมเข้าพบทันที หาก กระทรวงคมนาคม ได้รัฐมนตรีแล้ว ซึ่งค่าโดยสารที่ทางบริษัทได้เสนอไป คือ  2 บาท ของเรือทุกประเภท ดังนั้นเรือด่วนพิเศษธงเหลืองจาก 20 บาท จะถูกปรับเป็น 22 บาท เรือด่วนพิเศษธงส้มจาก 15 บาท เป็น 17 บาท และเรือตามระยะทาง ที่เริ่มต้นจาก 10 บาท เป็น 12 บาท

ทั้งนี้ ส่วนตัวคาดว่าแนวโน้มราคาน้ำมันดีเซลในอนาคตจะต้องปรับเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้นในการหารือเรื่องการปรับค่าโดยสารในครั้งต่อไปจะต้องมีการกำหนดว่า ราคาน้ำมันอยู่ที่กี่บาทต่อลิตรจะปรับขึ้นค่าโดยสารในอัตราเท่าใด เช่น หากราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 32 บาทต่อลิตร ค่าโดยสารจะต้องปรับขึ้นอีก 2 บาท

 สองแถวจ่อชง รมว.คค.ขึ้นค่าโดยสาร3บ.

นายฉัตรชัย ภู่อารีย์ ประธานชมรมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง หมวด 4 เอกชนแห่งประเทศไทย หรือ รถสองแถว เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้าการปรับขึ้นค่าโดยสารว่าจากเดิมที่ก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะเสนอกระทรวงคมนาคม จากเดิมช่วงเวลา 05.00-20.00 น. ปกติ 7 บาท เป็น 8 บาท และหลังเวลา 20.00-05.00 น. จาก 9 บาท เป็น 10 บาท นั้น อาจขอปรับขึ้นค่าโดยสารเป็น 10 บาท ในช่วงเวลากลางวัน ส่วนเวลากลางคืน ช่วงหลัง 4 ทุ่ม อาจต้องปรับราคาใหม่ เนื่องจากตั้งแต่เหตุการณ์ชุมนุมส่งผลให้คนใช้บริการรถสองแถวน้อยลง หรือประมาณร้อยละ 30 มีการย้ายที่พักอยู่ใกล้ที่ทำงานเพื่อความสะดวกในการเดินทาง และราคาน้ำมันดีเซลในปัจจุบันปรับขึ้นอีก ซึ่งค่าโดยสารในปัจจุบัน ไม่สอดคล้องกับต้นทุน ทั้งนี้ ตนเองได้เตรียมเอกสารพร้อมเสนอให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่

อย่างไรก็ตาม อยากให้ทางภาครัฐ ทำโฆษณาประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้คนหันมาใช้รถโดยสารสาธารณะมากขึ้น เพื่อช่วยผู้ประกอบการอีกทางหนึ่ง