CPFชี้ขายไก่สดพุ่งเกือบ2แสนตัน ส.อาหารโอ่ส่งออกจ่อ2แสนล.ญี่ปุ่น-รัสเซียแห่ซื้อ

CPFชี้ขายไก่สดพุ่งเกือบ2แสนตัน ส.อาหารโอ่ส่งออกจ่อ2แสนล.ญี่ปุ่น-รัสเซียแห่ซื้อ

CPFชี้ขายไก่สดพุ่งเกือบ2แสนตัน ส.อาหารโอ่ส่งออกจ่อ2แสนล.ญี่ปุ่น-รัสเซียแห่ซื้อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สมาคมผู้ผลิตไก่ชี้ยอดส่งออกไก่ไทยปี 2557 พุ่งกว่า 600,000 ตัน เกินกว่าเป้าที่คาดไว้ถึง 1 แสนตัน เหตุตลาดอียู-ญี่ปุ่น-รัสเซียบูมไก่สดไทย ออร์เดอร์เพียบผลิตแทบไม่ทัน ด้านสมาคมอาหารสำเร็จรูปมั่นใจส่งออกทั้งปี 2557 เติบโต 5%

นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ นายกสมาคมอาหารสำเร็จรูป กล่าวว่า สิ้นปี 2557 คาดการณ์ว่า ยอดส่งออกอาหารสำเร็จรูปของสมาคมจะขยายตัว 5% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.87 แสนล้านบาท เนื่องจากความต้องการสินค้าในตลาดโลกยังคงขยายตัว ขณะที่ภาพรวมการส่งออก 6 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 1.3 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 7% หรือประมาณ 93,417 ล้านบาท เพิ่มขึ้น6% จากปีที่ผ่านมา โดยสินค้าส่งออกมากสุด ได้แก่ ปลากระป๋อง, ลิ้นจี่กระป๋อง, หน่อไม้กระป๋อง, ข้าวโพดหวานแปรรูป, น้ำผลไม้, ผลไม้อบแห้ง และสินค้ากลุ่มซอสต่าง ๆ

ทั้งนี้เป็นผลมาจากตลาดสำคัญส่งออกมากขึ้น โดยเฉพาะรัสเซียส่งออกมากขึ้นเกือบเท่าตัวจาก 300 ล้านบาท ในเดือนมิถุนายน 2556 เป็น 500 ล้านบาท ในเดือนมิถุนายน 2557 ในกลุ่มสินค้าผลไม้อบแห้ง ส่วนตลาดอื่น เช่น ตลาดสหรัฐ อาเซียน ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ ส่งออกเพิ่มขึ้น

ขณะที่สินค้าที่มีแนวโน้มส่งออกลดลง ได้แก่ ปลากระป๋องซาร์ดีน และแมคเคอเรล จากปัญหาขาดวัตถุดิบ ทำให้การส่งออกไปตลาดสำคัญลดลง ได้แก่ ตลาดแอฟริกาใต้ ลดลงจาก 1.6 พันล้านบาท ในเดือน มิ.ย. 56 เป็น 800 ล้านบาท ในเดือน มิ.ย. 57 นอกจากนี้มีกลุ่มอาหารทะเลอื่น ๆ เงาะ, ลำไย, มะม่วง และผักแปรรูป เนื่องจากผลผลิตลดลง

กลุ่มอาหารสำเร็จรูปที่ส่งออกลดลงจากการขาดแคลนวัตถุดิบ และผลจากการไม่ได้สิทธิพิเศษทางภาษี (จีเอสพี) ในตลาดยุโรป ซึ่งหมดไปตั้งแต่สิ้นปี 2556 ทำให้การส่งออกไปตลาดยุโรปลดลง ทำให้ผู้ส่งออกหันไปหาตลาดใหม่ เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อาเซียน และรัสเซีย ที่มีการขยายตัวของประชากรและศักยภาพการซื้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ภาครัฐควรเร่งเจรจาเอฟทีเอ โดยเฉพาะการเจรจาเอฟทีเอ ไทย-สหภาพศุลกากรรัสเซีย-เบลารุส-คาซัคสถาน จะช่วยเปิดตลาดรัสเซียได้มากขึ้น นอกจากนี้ต้องการให้สนับสนุนการเจรจาในกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคของอาเซียน หรือ RCEP เพื่อช่วยเหลือด้านภาษี และผ่อนปรนเรื่องของกฎระเบียบทางการค้า

นายประสิทธิ์ ฉลองชัยชาญ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซี.พี.เมอร์แชนไดซิ่งจำกัด ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CPF) และกรรมการ สมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย กล่าวว่า ปี 2557 ยอดการส่งออกไก่ของไทยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 600,000 ตัน

จากปี 2556 ที่ส่งออกได้ 525,682 ตัน จากการส่งออกไก่สดได้เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจาก 100,000 ตันในปี 2556 เพิ่มเป็น 150,000-170,000 ตันในปี 2557 ขณะที่ไก่แปรรูปใกล้เคียงกับปี 2556 ที่ 450,000 ตัน

ทั้งนี้ปริมาณไก่สดที่เพิ่มขึ้นมาจากตลาดยุโรป และญี่ปุ่นมีความต้องการเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่นเมื่อมีปัญหากับจีนหันมาซื้อไก่สดไทยเพิ่มอีก ขณะที่รัสเซียแบนสินค้าจากกลุ่มสหภาพยุโรปได้หันมาสนใจซื้อไก่ไทย แต่ขณะนี้ผู้ประกอบการไทยอยู่ระหว่างเจรจากับผู้นำเข้ารัสเซียขอปรับราคาขึ้นอีก 10% ใกล้เคียงกับราคาที่ขายไปยุโรปและญี่ปุ่น นอกจากนี้ไทยได้อานิสงส์จากการที่บราซิลส่งไก่สดให้รัสเซียเพิ่มขึ้น ทำให้บราซิลส่งไก่ไปญี่ปุ่นและตะวันออกกลางน้อยลง และบราซิลน่าจะพยายามดึงราคาขึ้นอีก ทำให้ไทยได้ผลประโยชน์สองต่อ ทั้งเรื่องปริมาณและกลไกราคา อย่างไรก็ตาม การคว่ำบาตรของรัสเซียกับสหรัฐกรณียูเครนน่าจะยาวไปถึงต้นปี 2558

ขณะนี้มีออร์เดอร์จากรัสเซียเข้ามาแล้ว แต่รัสเซียบริโภคไก่ส่วนขา (Leg Quarters) ซึ่งไทยผลิตน้อยมาก ประกอบกับราคาที่สหรัฐอเมริกาเคยส่งออกไก่ส่วนขามาที่รัสเซียต่ำมาก ผู้ส่งออกไทยจึงมองว่าไม่คุ้มค่าที่จะปรับไลน์ผลิต ทั้งนี้ รัสเซียเคยนำเข้าไก่จากสหรัฐปีละกว่า 4-5 แสนตัน ไม่นับรวมนำเข้าจากอียู ทำให้ไทยจะส่งสินค้าได้ไม่พอต่อความต้องการของรัสเซีย

CPF มองผลกระทบเพื่อการทำตลาดญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง และ EU ที่เป็นตลาดส่งออกอยู่แล้วมากกว่า แต่หากจะผลิตไก่เนื้อส่งออกไปรัสเซีย อาจใช้วิธีการส่งสินค้าไลน์อื่นไป เช่น เนื้ออก (SBB) หรือส่งโดยฐานการผลิตในประเทศอื่น โดยเห็นว่าการปรับตลาดผู้บริโภคให้หันมาบริโภคสินค้าแบบใหม่ ๆ ที่ไทยสามารถส่งออกได้อยู่แล้วจะเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook