กทม. ลดภาษีโรงเรือนภาคเอกชน หวังจูงใจเพิ่มจุดจอดแล้วจร

กทม. ลดภาษีโรงเรือนภาคเอกชน หวังจูงใจเพิ่มจุดจอดแล้วจร

กทม. ลดภาษีโรงเรือนภาคเอกชน หวังจูงใจเพิ่มจุดจอดแล้วจร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายมานิต เตชอภิโชค รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานเปิดงานเสวนา “ถึงเวลากรุงเทพฯลดรถ เพื่อคน เพื่อโลก” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการบางกอกคาร์ฟรีเดย์2014 ( Bangkok Car Free Day 2014) โดยมีคณะผู้บริหารกทม. ผู้แทน50เขต หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและมหาวิทยาลัย เข้าร่วมเสวนา โดยนายมานิต กล่าวว่า กทม.พร้อมที่จะร่วมมือกับทุกภาคส่วน ร่วมกันเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองที่ประชาชนนิยมเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนเป็นหลัก พร้อมสนับสนุนให้ทุกคนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะ จักรยาน และการเดินเท้ามากกว่าการใช้รถส่วนบุคคล ทั้งนี้สำนักการคลัง กทม. ได้สร้างแรงจูงใจให้ภาคเอกชนเข้าร่วมโครงการจอดแล้วจร คือการจัดสรรพื้นที่สำหรับจอดรถของประชาชนเพื่อเดินทางต่อด้วยรถสาธารณะ ซึ่งกทม. ได้เพิ่มแรงจูงใจให้ภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการด้วยการลดภาษีโรงเรือนใน อัตราที่ต่ำกว่ากำหนด จึงขอเชิญผู้ประกอบการเข้าให้การสนับสนุนจุดจอดแล้วจร ซึ่งคาดว่าปี2560 เมื่อระบบรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง จะสามารถลดปริมาณรถยนต์บนท้องถนนได้ถึง 50%
 
“จากผลสำรวจการเดินทางในกรุงเทพฯ มีมากกว่า 17 ล้านเที่ยวต่อคนต่อวัน และคาดว่าภายในปี2464 จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 26.2 ล้านเที่ยวต่อคนต่อวัน ส่งผลให้รถยนต์เป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ ในการเดินทางของคนกรุงเทพฯ โดยจำนวนรถยนต์ที่จดทะเบียนสะสมในพื้นที่กทม. ตั้งแต่ปี2555-เดือนมิถุนายน 2557 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี2555 มีจำนวนรถยนต์ที่จดทะเบียน 7,523,381 คัน ปี2556 มีจำนวนรถยนต์ที่จดทะเบียน 8,216,859 คัน และปี2557 มีถึง 8,476,272 คัน จะเห็นว่าจำนวนรถยนต์เพิ่มสูงขึ้น แต่ถนนในกทม.ขยายไม่ทันความต้องการ ขณะเดียวกันการสร้างถนนเพิ่มไม่สามารถแก้ปัญหาได้ในระยะยาว ส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดและมีผลกระทบทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิต ตลอดจนด้านเศรษฐกิจ”นายมานิต กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook