ผงะ!รถหรูกว่า500คันล่องหน′ด่านตรวจ-คลังสินค้า′กรมศุลกากร หนีภาษี

ผงะ!รถหรูกว่า500คันล่องหน′ด่านตรวจ-คลังสินค้า′กรมศุลกากร หนีภาษี

ผงะ!รถหรูกว่า500คันล่องหน′ด่านตรวจ-คลังสินค้า′กรมศุลกากร หนีภาษี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า  หลังจากเข้ามารับตำแหน่งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาพบว่า มีรถยนต์หายไปจากคลังทัณฑ์บนของกรมฯ ไม่ยอมมาเสียภาษีอย่างถูกต้องกว่า 500 คัน โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตามรถยนต์ดังกล่าวกลับคืนมา ล่าสุดได้คืนมาแล้วกว่า 100 คัน ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์หรูราคาแพง(ซุปเปอร์คาร์)และยังตรวจสอบว่าเริ่ม มีการนำรถมอเตอร์ไซด์ราคาแพงที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ(บิ๊กไบค์)จำนวนมาก และหายไปจากระบบไม่ยอมมาเสียภาษีกว่า 80 คันแล้ว

“หลังจากพบเรื่องดังกล่าวสั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ พร้อมทั้งได้สั่งย้ายเจ้าหน้าที่ไปแล้ว 2 คน จากนี้ไปตรวจสอบให้เข้มงวดมากขึ้น  ปัญหานี้อาจเกิดมานานแล้ว แต่ยังไม่มีการตรวจสอบอย่างจริงจัง และในช่วงที่ผมเป็นอธิบดีจะเข้มงวด และตรวจสอบให้จริงจัง ถ้ามีเจ้าหน้าที่ทุจริตเอาไว้ไม่ได้ และเรื่องนี้ต้องทำอย่างจริงจัง”

นายสมชัย กล่าวว่า ลักษณะของรถที่หาย คือ เมื่อรถเข้ามาที่ท่าตรวจสินค้าแล้วผู้นำเข้าจะไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจปล่อยที่ด่านดังกล่าว แต่จะขอไปตรวจปล่อยสินค้ายังอีกด่านหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ กัน อาจจะเป็นเพราะคุ้นเคยกับด่านดังกล่าวและระหว่างการเคลื่อนย้ายสินค้าจากอีกด่านหนึ่งไปอีกด่านหนึ่งนั้นรถยนต์ก็หายไปจากระบบและไม่นำมาเสียภาษีอย่างถูกต้อง เป็นการหายเคลื่อนย้ายรถ

นอกจากนี้ยังมีอีกรูปหนึ่งที่ขอเอารถไปเก็บไว้คลังสินค้าทัณฑ์บนตามเวลาที่ผ่อนผันคือไม่เกิน 1 ปี เมื่อขายได้นำรถออกมาเสียภาษี เพราะรถดังกล่าวมีราคาแพงต้องเสียภาษีในมูลค่าสูงผู้นำเข้าไม่อยากจ่ายเงินภาษีไปก่อน ดังนั้นจะรอให้ขายรถได้ก่อนจึงมาเสียภาษี ซึ่งระหว่างที่สินค้าอยู่ในคลังทัณฑ์บนกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย

แก้ปัญหาอย่างถาวรสั่งการให้ติดตั้งเครื่องติดตาม(RFIDGPS) สำหรับสินค้าที่นำเข้าราคาแพงทั้งซุปเปอร์คาร์ และบิ๊กไบค์ที่ยังไม่เสียภาษี เพื่อดูว่าสินค้านั้นจะไปที่ไหน และเดินทางไปอย่างไร หากหายไปจะสามารถตามกลับมาคืนได้ง่าย พร้อมกันนี้ยังสิ่งให้เปิดเครื่องเอ็กซเรย์ตู้คอนเทนเนอร์ที่ท่าเรือ เพื่อตรวจสอบสินค้านำเข้าว่าเป็นสินค้าชนิดใด แจ้งไว้อย่างถูกต้องหรือไม่ 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook