เครดิตบูโรถอนแบล็คลิสต์ 6 แสนราย
เครดิตบูโรผ่อนปรนเกณฑ์ปลดแบล็คลิสต์อัตโนมัติลูกหนี้เอ็นพีแอลไม่เกิน 8 ปี เพื่อลดอุปสรรคการเข้าถึงสินเชื่อและให้เกิดความเป็นธรรม คาดมีลูกหนี้ถูกลบข้อมูลทันที 6 แสนราย
นายรณดล นุ่มนนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิต เปิดเผยว่า คณะกรรมการฯ เห็นชอบให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ระยะเวลาการส่งข้อมูลสมาชิกที่เป็นสถาบันการเงิน ให้บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติหรือเครดิตบูโร ของลูกหนี้ค้างชำระเกิน 3 เดือนหรือเอ็นพีแอลเป็นระยะเวลา 5 ปี และให้คงข้อมูลลูกหนี้ไว้ในบริษัทข้อมูลเครดิตฯ ต่อไปอีก 3 ปี รวมระยะเวลาที่ข้อมูลของลูกหนี้จะปรากฏในฐานะข้อมูลของศูนย์ข้อมูลเครดิตฯ 8 ปี จากปัจจุบันสถาบันการเงินต้องส่งข้อมูลให้จนกว่าลูกหนี้จะชำระหนี้หมดและไม่ปลดแบล็คลิสต์อัตโนมัติ
โดยเกณฑ์ใหม่นี้จะช่วยให้เกิดความเป็นธรรม และลดอุปสรรคในการเข้าถึงสินเชื่อของลูกหนี้ คาดว่าจะมีข้อมูลของลูกหนี้ถูกลบออกจากระบบทันที 6 แสนราย หลังมีผลบังคับใช้ในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายย่อยมียอดหนี้ไม่มากสัดส่วนร้อยละ 95 ส่วนที่เหลือเป็นนิติบุคคลที่ได้รับผลกระทบแบบไม่คาดคิดช่วงเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540
ทั้งนี้ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิตเห็นว่า ระยะ 8 ปีที่ยังคงข้อมูลลูกหนี้ไว้ในเครดิตรบูโรถือว่าเหมาะสม ที่สถาบันการเงินสามารถเห็นพฤติกรรมการชำระหนี้ของลูกหนี้เพื่อใช้ในการวิเคราะห์สินเชื่อได้ ส่วนกรณีลุกหนี้ชำระหนี้หมดเร็วกว่า 5 ปี กำลังพิจารณาว่าอาจผ่อนปรนเกี่ยวกับเกณฑ์การคงข้อมูลไว้ที่บริษัทข้อมูลเครดิตฯ ต่อ 3 ปี
นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังประกาศให้สหกรณ์และชุมนุมสหกรณ์ทุกประเภทเป็นสถาบันการเงิน ตามมาตรา 3(9) แห่ง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ.2545 เข้าเป็นสมาชิกได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการมีฐานข้อมูลเพื่อการพิจารณาสินเชื่อ และสมาชิกของบริษัทข้อมูลเครดิตฯ จะมีฐานข้อมูลในการประเมินความเสี่ยงของลูกหนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงินโดยรวม