ชง8ข้อขายฝันท่องเที่ยว4ล้านล. เสนอ′รมว.คนใหม่′ดันสู่ภาคปฏิบัติ ชวน′กอบกาญจน์′ทัวร์ยุ่นฟื้นตลาด
สทท.เตรียมเสนอ 8 แผนงานถึงมือ รมว.การท่องเที่ยวฯ วาดฝันผลักดันเป้ารายได้ทะลุ 4 ล้านล้านบาท ในปี 2561 เชิญ′กอบกาญจน์′ทัวร์ยุ่นฟื้นตลาด พร้อมเสนอปรับโครงสร้างหน่วยงานท่องเที่ยวใหม่เหตุยังกระจัดกระจาย
นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า เตรียมที่จะเสนอให้ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย สร้างรายได้เข้าประเทศถึง 4 ล้านล้านบาท ในปี 2561 พร้อมกับจัดทำข้อเสนอ 8 ข้อ เพื่อทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบข้าราชการ (ก.พ.ร.) ในการดำเนินการขับเคลื่อนท่องเที่ยว อาทิ การจัดทำระบบออนไลน์เพื่อแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและเส้นทางแก่นักท่องเที่ยว เพิ่มการบริการจองตั๋วรถไฟและรถโดยสารแบบออนไลน์ การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเพื่อรองรับการท่องเที่ยว การขอออนไลน์วีซ่าเข้าประเทศ เพิ่มการออกแบบและติดตั้งระบบตรวจสอบผู้โดยสารล่วงหน้าสำหรับผู้โดยสารที่ไม่ได้มีสัญชาติไทย เพื่อให้สามารถตรวจลงตราวีซ่าที่เคาน์เตอร์สายการบิน และอื่นๆ ไปแล้วนั้น สทท.คาดหวังว่า หากสามารถนำมาสู่การปฏิบัติได้จริง มีโอกาสถึงเป้าหมายดังกล่าว
"ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เติบโตเฉลี่ยปีละ 20% และเตรียมเชิญ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคนใหม่ เข้ามาสร้างรากฐานและเร่งสร้างความเชื่อมั่นด้วยการออกไปเยือนประเทศ คู่ค้าที่สำคัญในงานเจรจาธุรกิจรายการใหญ่ๆ จะยิ่งทำให้มีโอกาสในการบรรลุเป้าหมายเพิ่มมากขึ้น น่าจะเริ่มจากการเยือนงานจาต้า ทัวร์ริซึ่ม เอ็กซ์ วันที่ 25 กันยายนนี้ ภาคเอกชนหวังว่าจะสามารถช่วยฟื้นสถานการณ์ตลาดญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่ และมีลักษณะเฉพาะตัวในการทำตลาดสูง แต่ที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากการเมืองพอสมควร ซึ่งนางกอบกาญจน์เคยมีประสบการณ์ตรงในการทำงานในเชิงธุรกิจร่วมกับญี่ปุ่นมานาน เชื่อมั่นว่าการเยือนครั้งนี้ จะเป็นโอกาสในการเริ่มจุดประกายสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดต่างชาติในภาพรวมได้แน่นอน" นางปิยะมานกล่าว
นางปิยะมานกล่าวว่า นอกจากนี้ ยังขอให้พิจารณาโครงสร้างขององค์กรท่องเที่ยวในปัจจุบัน เพราะยังสังกัดหน่วยงานที่หลากหลาย เช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกรมการท่องเที่ยว สังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขณะที่สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (ทีเส็บ) และองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) กลับไปสังกัดอยู่ใต้สำนักนายกรัฐมนตรี ดังนั้น จึงขอให้มีการทบทวนความเหมาะสมในการทำงานอีกครั้งว่า จะสามารถควบรวมภายใต้สังกัดเดียวกัน เพื่อให้เกิดการบูรณาการการทำงานที่แท้จริง
นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก รองประธาน สทท. กล่าวว่า สนใจที่จะลงสมัครเพื่อเข้าเป็นกรรมการและพร้อมจะดำรงตำแหน่งประธาน สทท.หลังจากคณะกรรมการชุดปัจจุบันหมดอายุในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ โดยพร้อมจะเข้ามาสานต่อภารกิจเดิมที่คณะกรรมการ สทท.ชุดเดิม พร้อมให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อเตรียมรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ปี 2558 และพร้อมผลักดันเป้าหมายรายได้ 4 ล้านล้านบาท ในปี 2561 ด้วย