ห้าม! แบตสำรองเกิน 3.2 หมื่นมิลลิแอมป์ขึ้นเครื่อง

ห้าม! แบตสำรองเกิน 3.2 หมื่นมิลลิแอมป์ขึ้นเครื่อง

ห้าม! แบตสำรองเกิน 3.2 หมื่นมิลลิแอมป์ขึ้นเครื่อง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บริษัท ท่าอากาศยานไทย ประกาศห้ามผู้โดยสารนำแบตเตอรี่สำรองที่มีความจุเกิน 3.2 หมื่นมิลลิแอมป์ ขึ้นเครื่องบินโดยเด็ดขาด เนื่องจากเกรงว่าอาจทำให้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นได้

  
นางระวีวรรณ เนตระคเวสนะ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) เปิดเผยว่า สนามบินสุวรรณภูมิกำหนดห้ามผู้โดยสารนำวัตถุอันตรายติดตัว หรือนำใส่กระเป๋าเดินทางโหลดใต้เครื่องบิน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาตา) อย่างเคร่งครัด

โดยในจำนวนข้อห้ามนี้รวมถึงห้ามนำแบตเตอรี่สำรองโทรศัพท์เคลื่อนที่ความจุไฟฟ้าเกิน 3.2 หมื่นมิลลิแอมป์ขึ้นเครื่อง เพื่อสร้างความปลอดภัยในการเดินทางแก่ผู้โดยสารสูงสุด

นายสมัท พุ่มอ่อน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารภาวะฉุกเฉินและวิกฤต บริษัท การบินไทย กล่าวว่า การบินไทยได้กำหนดมาตรการการพกพาแบตเตอรี่สำรองขึ้นเครื่องบิน เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยเกิดอุบัติเหตุแบตเตอรี่สำรองลุกไหม้ในสายการบินต่างชาติ

ทั้งนี้ สำหรับกฎของไออาตาได้กำหนดมาตรฐานการนำแบตเตอรี่สำรองหรือเพาเวอร์แบงก์ขึ้นบนเครื่องบินว่า ห้ามนำแบตเตอรี่สำรองใส่กระเป๋าเดินทางโหลดใต้เครื่องในทุกกรณี แต่ให้นำใส่กระเป๋าติดตัวถือขึ้นเครื่องบินได้ในจำนวนและปริมาณที่จำกัด

โดยไออาตาระบุรายละเอียดว่า แบตเตอรี่สำรองที่มีความจุไฟฟ้าน้อยกว่า 2 หมื่นมิลลิแอมป์ หรือน้อยกว่า 100 วัตต์ สามารถนำหิ้วขึ้นเครื่องได้ไม่จำกัดจำนวน กรณีมีความจุไฟฟ้า 2-3.2 หมื่นมิลลิแอมป์ หรือ 100-160 วัตต์ นำขึ้นเครื่องได้ไม่เกินคนละ 2 ก้อน แต่หากเกิน 3.2 หมื่นมิลลิแอมป์ หรือ 160 วัตต์ ห้ามนำขึ้นเครื่องในทุกกรณี
 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook