ดูหุ้นให้ดูที่ตัวเลข ภาค 2
คราวก่อนนานิได้อธิบายเรื่อง Quantitative Analysis กันไปแล้วเนอะ ซึ่งคือการวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน คำนวณหามูลค่าที่แท้จริงของบริษัทนั้นๆ แล้วก็ดูว่าตอนนี้ราคาที่ซื้อขายกันอยู่ในตลาด (Market price) นี่มันเกินพื้นฐาน (Overvalued) หรือ ต่ำกว่าพื้นฐานและควรแก่การซื้อ (Undervalued) รึเปล่า
ปัญหาก็คือ ถ้าการทำเพียง Quantitative Analysis แล้วมันใช้ได้เลย ป่านนี้คนที่เรียนบัญชี เศรษฐศาสตร์ หรือไฟแนนซ์ ก็คงรวยกันเต็มบ้านเต็มเมือง กลายเป็น Warren Buffet ไปเรียบร้อยละ อย่างนี้ยิ่งเป็นการยืนยันว่า ตลาดหุ้น มันมีอะไรมากกว่าแค่เรื่องตัวเลขและงบการเงิน วันนี้นานิจะมาพูดถึงเรื่อง Qualitative Analysis เป็นการวิเคราะห์แบบที่ไม่ใช่ตัวเลข เพื่อดูคุณภาพและแนวโน้มของธุรกิจในอนาคต
ส่วนใหญ่แล้ววิธีที่เป็นที่นิยมที่สุดคงจะหนีไม่พ้น SWOT analysis ซึ่งเป็นการวิเคราะห์สภาพธุรกิจเพื่อค้นหาจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาสและอุปสรรคที่อาจส่งผลต่อการดำเนินงาน คำว่า SWOT ย่อมาจาก S-Strength (จุดแข็ง) W-Weakness (จุดอ่อน) O-Opportunity (โอกาส) T-Threat (อุปสรรค) อันนี้ก็ดูกันไป แล้วเอาไปเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน ว่าเป็นยังไงบ้าง โอกาสรอด หรือโอกาสเติบโตต่อไปเป็นผู้นำอุตสาหกรรม มันมีมากน้อยแค่ไหน ^_^
หลายคนซื้อหุ้น โดยไม่ได้รู้เรื่องธุรกิจนั้นเลย แบบนี้อันตราย คำว่ารู้จัก ไม่ได้หมายความว่าพอมีคนถาม หุ้น … นี้ทำอะไรแล้วเราสามารถตอบได้ว่า อ๋อขายเหล็กอ่ะ แค่นี้ไม่ได้นะคะ มันไม่พอ เราต้องรู้ว่า ที่ขายเหล็กนี่ เค้าเป็นธุรกิจ ต้นน้ำ กลางน้ำ หรือปลายน้ำ เค้าทำอะไร แล้วสินค้าเค้านี่มีความได้เปรียบสินค้าคู่แข่งมากแค่ไหน หรือว่าเหมือนกันหมด ลูกค้าจะใช้ของใครก็เหมือนกัน แบบนี้แข่งราคากันอย่างเดียว ไม่ได้แข่งคุณภาพ ก็แย่หน่อย
ถ้าใครที่ไม่รู้ว่าจะดูที่ไหน จะเข้าใจธุรกิจยังไง เริ่มต้นจากการเข้าไปอ่าน Annual Report หรือรายงานประจำปี ของบริษัทก่อนเลยค่ะ คือเข้าไปที่เว็บไซต์ของบริษัทนั้น แล้วก็คลิกเข้าไปในส่วน Investor Relations ซึ่งจะมีข้อมูลต่างๆ รวมถึงรายงานประจำปีย้อนหลังด้วย ถ้าอ่านแล้วเราจะพอเห็นภาพเลยว่า บริษัทนี้ทำอะไร ทำอย่างไร แล้วภาพรวมอนาคตเป็นยังไง นอกจากนี้แล้ว ทุกๆไตรมาส หลายบริษัทจะมี Analyst Presentation ซึ่งเป็น powerpoint slide ที่เค้าใช้ในการพรีเซ็นต์ให้นักวิเคราะห์จากโบรกฯ กองทุน ฯลฯ อันนี้จะเป็นเหมือนสรุปสั้นๆ ย่อๆ และดูง่ายกว่าไปนั่งอ่านรายงานประจำปีนิดนึง คือเป็นแบบรวบรัด สองอย่างนี้จะทำให้เราเห็นภาพทั้งทางด้าน Quantitative และ Qualitative เลยหล่ะ
ส่วนใครขี้เกียจอ่าน (แต่ทนอ่านบทความนานิมาถึงตรงนี้ 555) ก็สามารถเข้าไปตามลิงค์นี้ได้นะคะ http://www.set.or.th/set/oppdaybyperiod.do เป็นศูนย์รวมวิดีโอ Opportunity Day ที่ผู้บริหารของบริษัทต่างๆมาพรีเซ็นต์ผลประกอบการของบริษัทตัวเองให้แก่นักลงทุนค่ะ ใครสนใจก็สามารถเข้าไปดูตารางถ่ายทอดสด หรือดูย้อนหลังได้ค่า
ในบทต่อไป นานจะกลับมาต่อด้วยเรื่องของตัวเลข และจะเป็นตัวไหน อย่าลืมติดตามกันนะค่ะ
ผู้เขียน : นานิ นิธินวกร - ผู้เริ่มต้นคลิกแรกผ่าน Click2Win
สนับสนุนข้อมูลโดย : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (www.set.or.th/onlineinvestor)