เป็นหนี้..กระปุกออมสิน หายไปจากชีวิต!?!

เป็นหนี้..กระปุกออมสิน หายไปจากชีวิต!?!

เป็นหนี้..กระปุกออมสิน  หายไปจากชีวิต!?!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ข่าวเป็นคนหนี้ฆ่าตัวตายยังเป็นความจริงที่ปรากฏให้เห็นในสังคมบ่อยครั้ง  ซึ่งดูเหมือนจะเป็น ปัญหาลูกโซ่งูกินหางที่ไม่ว่าจะกี่รัฐบาลคงไม่สามารถจัดการได้อย่างฉับพลัน  ทั้งปัญหาหนี้ในระบบของคนทำงาน หรือ หนี้นอกระบบของคนจน  วังวนนี้ยังคงตามหลอกหลอนคนทุกยุคทุกสมัย

แม้รัฐบาลนี้ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังเร่งผุดโครงการ สินเชื่อ “นาโนไฟแนนซ์  (Nano-Finance)” ที่หวังจะแก้ปัญหาหนี้นอกระบบให้กับคนจนได้  โดยกำหนดวงเงินไว้รายละไม่เกิน 100,000 - 120,000 บาท กับอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 36 ต่อปี เอกชนเข้ามาเป็นผู้ดำเนินการภายใต้การดูแลของภาครัฐ  ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี คนเป็นหนี้นอกระบบจะคลายทุกข์ฉีกยิ้มได้สุดหรือไม่ต้องลองดู

ย้อนมาดูต้นเหตุของการเกิดหนี้  ปัจจัยหลักคงหนีไม่พ้นเรื่องของ “รายได้”  เมื่อรายรับไม่สมดุลกับรายจ่ายต่อภาระที่ต้องแบกไว้  เคล้าลางการเป็นหนี้เริ่มเกิดขึ้น  ในยุคที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า  “เงิน “ คือคำตอบของทุกสิ่งทำให้คนดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้  “ไม่มีก็กู้ยืมมาก่อน”  เชื่อว่าทุกคนรู้ดีเป็น การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ  ทำอย่างไรให้มีเงินเข้ากระเป๋าแบบยั่งยืนถือเป็นสิ่งสำคัญกว่า   การสร้างอาชีพให้มั่นคงแบบเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงที่พระราชทานแนวทางมาให้ยังใช้ได้ดีกับทุกยุคสมัย 

สังคมเกษตรผสานกับสังคมอุตสาหกรรม  เมื่อมีรายได้ ตัดแบ่งบางส่วนไปลงทุน เพื่อสร้างผลผลิต นำผลผลิตไปขาย มีรายได้เพิ่ม แบ่งไว้เป็นส่วนของเงินออม  เรียกว่าเป็นวงจรรายได้ที่ไม่วันหด   
การสร้างรายได้สูงให้กับประชาชน นโยบายเด็กจบใหม่เงินเดือนเริ่มที่ 1.5 หมื่นบาท  เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท หรือปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการในหลาย ๆ หน่วยงาน  ทั้งหมดจะไม่เกิดประโยชน์อันใด ถ้าคนยังขาดวินัยการออมและใช้ชีวิตเกินคำว่าพอเพียง

“กระปุกออมสิน”  พื้นฐานการออมที่ไม่ซับซ้อนและทุกคนได้ยินมาตั้งแต่เด็ก  แต่วันนี้กระปุกออมสินถูกลดบทบาทแทบจะไม่เห็นคนรุ่นใหม่พูดถึง หลายคนหันไปออมเงินในรูปแบบอื่นที่ได้ผลกำไรมากกว่า  แต่หารู้ไม่การหยดกระปุกด้วยตัวเองไม่มีความเสี่ยงแม้ไม่ได้กำไรแต่มีความมั่นคงดั่งรากแก้ว 

ถ้าหยอดเงินใส่กระปุกวันละ  1  บาท หนึ่งปีจะมีเงินเก็บ 365 บาท ถ้ามีวินัยและทำอย่างต่อเนื่องเป็น 10 ปีขยับตัวเลขจาก หลักหน่วยเป็นหลักสิบเพิ่มเป็นหลักร้อย ออมแบบที่ไม่เบียดเงินในกระเป๋า เก็บที่เหลือจากการใช้จ่ายในแต่ละวัน  ปลายทางของตัวเลขมีภาพให้เห็นอย่างชัดเจน  กระปุกออมสินไม่ว่าจะใบใหญ่หรือเล็กมีค่าเท่ากัน  และไม่ว่าจะออมในรูปแบบไหนถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี 

ลองเช็คตัวเองดูว่าวันนี้ที่เป็นหนี้ เพราะทำกระปุกออมสินหายไปจากชีวิตหรือเปล่า???

โดย Wilairat Taiprayoon

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook