เวิลด์แบงค์ ปรับลดจีดีพีไทย เหลือร้อยละ 2.4
ตัวแทนธนาคารโลก หรือ เวิลด์ แบงค์ เดินทางกับเข้าพบ นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคต (กยอ.) และกระทรวงการคลัง เพื่อสรุปการประเมินความเสียหายเกี่ยวกับอุทกภัยของประเทศไทยให้ได้รับทราบ
ธนาคารโลกระบุว่า มีโรงงานอุตสาหกรรมได้รับความเสียหายกว่า 660,000 ล้านบาท และความเสียหายจากการหยุดสายพานการผลิต 700,000 ล้านบาท รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท ส่งผลให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของประเทศลดลง
ธนาคารโลกแนะว่า ไทยควรมีมาตรการระยะสั้น 6 เดือน ถึง 2 ปี สำหรับฟื้นฟูด้านสังคมและการผลิต ซึ่งควรเน้นให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย และให้ผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงการช่วยเหลือของภาครัฐอย่างทั่วถึง รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรที่จะเพาะปลูกในฤดูกาลถัดไป
ขณะที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เชื่อว่า การย้ายฐานการลงทุนจากไทยไปประเทศเพื่อนบ้านของบางบริษัทโดยอ้างเหตุผลมาจากน้ำท่วมนั้น คิดว่าเป็นการขยายการลงทุนตามแผน
ขณะที่การประชุมมอบหมายให้กรมสรรพากรและสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ไปจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมกรณีการเตรียมขยายสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีนิติบุคคลสำหรับบริษัทที่รับการส่งเสริมการลงทุนและได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
ทั้งนี้มีบริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและจังหวัดปทุมธานีทั้งในและนอกนิคมฯ ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ 937 บริษัท คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 700,000 ล้านบาท