เปิด 5เขตเศรษฐกิจรุ่งกลางกรุง เงินสะพัด "ปทุมวัน-พญาไท" ขึ้นแชมป์
เปิด 5 เขตเศรษฐกิจรุ่งเมืองกรุง ช่วง 8 เดือน เขตปทุมวันครองแชมป์เงินฝากตามด้วยคลองเตย ฟาก "พญาไท" ขึ้นแท่นกู้เงินสูงสุด รองลงมาเป็นเขตบางรัก แบงก์ชี้เป็นย่านศูนย์รวมธุรกิจรายใหญ่จนถึงเอสเอ็มอี เผยเทรนด์ปลายปียอดกู้หมุนเวียนคึกคัก
ผู้สื่อข่าวรายงานจากข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ความเคลื่อนไหวด้านมูลค่ารวมด้านเงินฝากและเงินให้สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ (แบงก์) ทั้งระบบ ซึ่งแยกเป็นรายเขตในกรุงเทพฯ จำนวน 50 เขต พบว่า เขตที่ครองแชมป์มียอดเงินฝากสูงสุด 5 อันดับในเดือนสิงหาคม 2557 ได้แก่ 1.เขตปทุมวัน มียอดเงินฝาก 424,998 ล้านบาท 2.เขตคลองเตย 323,858 ล้านบาท 3.เขตพญาไท 306,787 ล้านบาท 4.เขตจตุจักร 299,171 ล้านบาท และอันดับ 5.เขตบางรัก 292,660 ล้านบาท
ส่วนยอดเงินให้สินเชื่อ 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.เขตพญาไท มีสินเชื่อจำนวน 237,954 ล้านบาท 2.เขตบางรัก 161,291 ล้านบาท 3.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย 147,871 ล้านบาท 4.เขตจตุจักร 141,965 ล้านบาท และ 5.เขตปทุมวัน 138,018 ล้านบาท
ทั้งนี้ หากพิจารณายอดคงค้างในระยะ 8 เดือนที่่ผ่านมา (ม.ค.- ส.ค. 2557) พบว่าเขตที่มีียอดคงค้างเงินฝากสูงสุด คือเขตปทุมวัน จำนวน 3.2 ล้านล้านบาท เขตที่มียอดคงค้างสินเชื่อสูงสุด คือ พญาไท จำนวน 1.9 ล้านล้านบาท
นายจิรัชยุติ์ อัมยงค์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายพาณิชย์ธนกิจ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของยอดเงินฝากและสินเชื่อที่เกิดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าวว่า เขตพื้นที่ที่มียอดเงินฝากและเงินให้สินเชื่อในระดับที่สูงมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ ซึ่งมีภาคธุรกิจหลัก ๆ รวมกันทั้งที่เป็นโรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า อีกทั้งยังเป็นพื้นที่มีความสะดวกในการเดินทาง จึงมีกลุ่มลูกค้ามั่งคั่งและนักธุรกิจค่อนข้างมากที่เข้าใช้บริการสาขาแบงก์ในพื้นที่ดังกล่าว และหากไม่มีสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง การขยายตัวของเงินฝากและสินเชื่อในเขต่ดังกล่าวจะสูงขึ้นมากกว่านี้
"ในช่วงที่เหลือของปีนี้ สินเชื่อในเขตพื้นที่ข้างต้นจะขยายตัวได้สูงขึ้นมาก เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นแหล่งผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ของขวัญและเครื่องประดับของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งในช่วงก่อนเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ จะสามารถขายสินค้าและส่งออกได้มากเป็นพิเศษ" นายจิรัชยุติ์กล่าว