รมว.พลังงานคาดราคากลุ่มเบนซินจะต่ำกว่า 30 บาท/ลิตร

รมว.พลังงานประเมินราคากลุ่มเบนซินจะต่ำกว่า 30 บาท/ลิตร หลังปรับโครงสร้างเชื้อเพลิง ด้านกลุ่ม ปตท.ประเมินราคาน้ำมันจะค่อย ๆ ขยับขึ้น หลังวานนี้แตะ 60 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล และจะขยับขึ้นไปสะท้อนต้นทุน 80-90 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล

นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการเป็นประธานลงนามในพิธีบันทึกข้อตกลงโครงการความร่วมมือด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ระหว่าง 3 การไฟฟ้า วันนี้ (11 ธ.ค.) ว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานวันที่ 15 ธันวาคมนี้กระทรวงพลังงานจะเสนอกรอบแนวทางการปรับโครงสร้างราคาพลังงานที่จะเน้นสร้างความเป็นธรรมต่อผู้ใช้น้ำมันโดยเฉพาะผู้ใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินที่แนวโน้มจะมีราคาปรับลดลงต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร และจะใกล้เคียงกับราคาดีเซล หลังจากปรับโครงสร้างโดยอัตราภาษีน้ำมัน 2 ประเภทจะใกล้เคียงแล้วปรับลดการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หลังมีวงเงินเพียงพอในการดูแลเสถียรภาพราคาน้ำมันไม่ให้ผันผวนในอนาคต

“โครงสร้างราคาเชื้อเพลิงที่ใช้จากรถยนต์ควรดูค่าความร้อนเป็นหลักและนำมาพิจารณาในการปรับโครงสร้างราคา โดยหลายปีที่ผ่านมาราคาดีเซลถูกกำหนดให้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร เพราะรัฐลดภาษีสรรพสามิตลงไปจนแทบไม่ได้เก็บเลย ส่วนกลุ่มเบนซินเก็บทั้งภาษีฯ เงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จึงไม่เป็นธรรมจากนี้ต้องปรับใหม่ให้การเก็บเงินเข้ากองทุนฯ และภาษีฯ เหมาะสม และพิจารณาจากค่าความร้อน ซึ่งหากมองเช่นนี้แล้วดีเซลจากนี้ไปราคาคงจะไม่ต่างไปจากปัจจุบันนักและดีเซลอาจมีราคาใกล้เคียงอี 20″ รมว.พลังงาน กล่าว

สำหรับราคาแอลพีจี (ก๊าซหุงต้ม) ที่ปัจจุบันรัฐปรับโครงสร้างไม่มีการอุดหนุนราคาจากกองทุนน้ำมันฯ ทำให้ราคากลุ่มครัวเรือน ขนส่ง และภาคอุตสาหกรรมอยู่ในอัตราเดียวกัน คือ 24.16 บาทต่อกิโลกรัมแล้วนั้น จากนี้ขั้นตอนต่อไปแต่ไม่รีบคือต้องขยับราคาหน้าโรงแยกก๊าซฯ จาก 330 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ให้สะท้อนต้นทุน

“แนวคิดอยากให้แอลพีจีขนส่งขึ้นราคาต่างจากกลุ่มครัวเรือน แต่การทำก็ยากก็กำลังพิจารณาว่าจะทำอย่างไรระยะสั้นคงต้องให้เท่ากันไปก่อน เพราะคนใช้แอลพีจีในรถยนต์มีถึง 1.3 ล้านคัน จะไปโทษเขาก็ไม่ได้ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลเป็นคนทำให้ราคาแอลพีจีต่ำกว่าความเป็นจริงเอง” รมว.พลังงาน กล่าว

นายณรงค์ชัย กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีที่ระบุว่าไม่เห็นด้วยกับการปรับราคาแอลพีจีว่า เรื่องดังกล่าวนายอภิสิทธิ์ อาจมองถึงประชาชนว่าจะลำบาก แต่ในข้อเท็จจริงต้องมองผลกระทบในภาพรวม ซึ่งในสมัยรัฐบาล “อิภสิทธิ์” ประกาศดูแลดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร แยกราคาก๊าซ จนเกิดปัญหาตามมาหลายด้าน และต้องมาตามแก้ โดยหลักเศรษฐศาสตร์แล้วราคาพลังงานก็ควรสะท้อนต้นทุน

ล่าสุดราคาน้ำมันดิบวานนี้ (10 ธ.ค.) ลดลงแรง โดยเวสต์เท็กซัสปรับลดลงเกือบร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า จ่อหลุดระดับ 60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ปิดที่60.94 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 2.88 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลดลง 2.60 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 64.24 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนตัวในสหรัฐ

นายสุกฤติย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการ ไออาร์พีซี กล่าวว่า กลุ่ม ปตท.ประเมินทิศทางราคาน้ำมันร่วมกัน เห็นว่า ราคาน้ำมันคงจะร่วงต่ำลงไปไม่นานมาก เพราะสุดท้ายแล้วผู้ผลิตต้องคำนึงถึงจุดคุ้มทุนการผลิต โดยคาดว่าเมื่อผ่านจุดต่ำสุดแล้ว หลังจากนั้นอีก 2-3 เดือนจะสะท้อนต้นทุนที่เหมาะสม โดย กลุ่ม ปตท.คาดราคาที่จะกลับมา คือ ระดับ 80-90 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล.